![]() |
ลุ้นอยู่ในกำกับสำนักนายกฯ เน้นพัฒนาเด็กทุกคนลดความเหลื่อมล้ำศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ....โดยมีหลักการสำคัญ คือ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการการปฐมวัยแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการการปฐมวัยแห่งชาติ เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนงาน และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กซึ่งมีหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอื่นๆ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกลไกกลางคล้ายกับซุปเปอร์บอร์ดเพื่อเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน วางทิศทางและกำกับติดตามประเมินผลให้การดูแลเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า การลงทุนกับเด็กปฐมวัยให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่าการลงทุนกับผู้ใหญ่ โดยการดูแลดังกล่าวจะดูแลเด็กตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กำหนด คือ เด็กทุกคนต้องได้รับการดูแลทั้งเด็กสัญชาติไทยที่ขาดโอกาสทางการศึกษา, เด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่เกิดในแผ่นดินไทย, เด็กต่างด้าวที่ข้ามมาเรียนในประเทศไทย ซึ่งการดูแลก็เพื่อประโยชน์ของเด็กที่จะได้รับการศึกษาและพัฒนาตนเองและสิทธิเด็ก รวมทั้งคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศไทย ความมั่นคงของประเทศ อีกทั้งเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและคุณภาพการศึกษา แต่การจะให้ทุนต่างๆนั้นจะเน้นการดูแลเด็กสัญชาติไทยก่อน ต่อข้อถามถึง ร่าง พ.ร.บ.การปฐมวัยแห่งชาติ พ.ศ.... มีข้อแตกต่างจากคณะกรรมการชุดอื่นๆที่ดูแลด้านเด็กปฐมวัยอย่างไรนั้น ศ.นพ.จรัสกล่าวว่า คณะกรรมการการปฐมวัยแห่งชาติ ที่จะเกิดขึ้นตามกฎหมายฉบับนี้ จะมีความยั่งยืนกว่าคณะกรรมการการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ชุดปัจจุบัน ซึ่งตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี และจะหมดวาระตามอายุของรัฐบาลนี้ ส่วนคณะกรรมการการปฐมวัยแห่งชาติตามกฎหมายใหม่จะดูแลเด็กอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะขึ้นกับหน่วยงานใดนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป แต่มีแนวโน้มที่จะอยู่ในกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ภายในเดือน พ.ค.2561. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 27 ธ.ค. 60 อ่าน 19213 ครั้ง คำค้นหา : |