![]() |
“กนกวรรณ” รมช.ศึกษาฯแถลงเอง พบข้าราชการ สช.สุมหัวทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวโรงเรียนเอกชนในกรุงเทพฯและนราธิวาส รวมความเสียหาย 16 ล้านบาท ทั้ง 2 แห่งผู้กระทำผิดรับสารภาพ สั่งฟันดาบแรกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ดาบสอง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและแจ้งความเอาผิดทางอาญา ลั่นใครมีเอี่ยวต้องจัดการเด็ดขาด ด้านเลขาฯ กช.แฉพฤติกรรมสุดเหิมหลังสอบสวนพบโรงเรียนบางแห่งไปถอนเงินสดนับล้านให้เจ้าหน้าที่ขี้ฉ้อกันถึงแบงก์ ศธ.แถลงพบโกงเงินอุดหนุนรายหัวโรงเรียนเอกชนใน กทม. และนราธิวาส ความเสียหายเฉียด 16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. และนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจสอบทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โดยนางกนกวรรณแถลงว่า ได้รับรายงานมีการ ทุจริตการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวโรงเรียนเอกชนใน จ.นราธิวาส และกรุงเทพฯ ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ลักษณะวิธีการคล้ายคลึงกันคือมีการแก้ไขจำนวนนักเรียน เพื่อให้โอนเงินอุดหนุนรายหัวให้แก่โรงเรียนเกินกว่าที่ควรจะได้รับ แล้วให้โรงเรียนโอนเงินคืนหรือถอนเงินสดคืนให้เจ้าหน้าที่เป็นการส่วนตัว นางกนกวรรณกล่าวว่า รายการแรกพบการทุจริตเงินอุดหนุนในสำนักงาน สช.จังหวัดนราธิวาส ระหว่าง ต.ค.61-มี.ค.63 ความเสียหายทั้งหมด 13,653,672.38 บาท ผู้ทุจริตเป็นพนักงานราชการ รายที่สองเป็นการทุจริตเงินอุดหนุนรายหัวในโรงเรียนเอกชนเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ความเสียหาย 2,611,634.53 บาท ห้วงเวลาทุจริต ตั้งแต่ปีการศึกษา 58-ก.พ.64 ผู้ทุจริตเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีอาวุโส สังกัด สช. ทั้งสองเคสผู้ก่อเหตุรับสารภาพ ได้ลงโทษให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ส่วนจะมีบุคคลอื่นร่วมทุจริตอีกหรือไม่จะสอบสวนต่อ รวมถึงแจ้งความดำเนินคดีตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดทางละเมิดด้วย พร้อมรายงานเรื่องดังกล่าวให้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. รับทราบแล้ว ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า การทุจริตรายการแรกเป็นการทุจริตเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวนักเรียนของ สช.จังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่ ต.ค.61-มี.ค.63 ความเสียหายทั้งหมด 13,653,672.38 บาท จำแนกเป็น 1.เงินอุดหนุนพัฒนาคุณภาพฯ (ค่าเสี่ยงภัย) 1,120,000 บาท โดยจ่ายเบี้ยเสี่ยงภัยขาด 18 โรงเรียน จ่ายเกิน 2 แห่ง 2.เงินอุดหนุนรายบุคคล 11,433,933.72 บาท จ่ายเกิน 4-5 โรง และ 3.จ่ายเงินอุดหนุนพัฒนาประสิทธิภาพของโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ หรือเงินท็อปอัพ ร้อยละ 15 จากเงินอุดหนุนทั้งหมด ร้อยละ 70 ความเสียหาย 1,081,738.66 บาท โดยจ่ายเกิน 5 โรง และมีโรงเรียนที่ได้รับเงินไม่ครบ 31 โรงเรียน เลขาธิการ กช.กล่าวต่อว่า ส่วนการทุจริตรายการที่สองเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ความเสียหายรวม 2,611,634.53 บาท มีโรงเรียนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง 7 โรงเรียน ใน 3 เขต ได้แก่ เขตสาทร 2 แห่ง เขตยานนาวา 3 แห่ง และเขตคลองเตย 2 แห่ง พบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชีข้าราชการ สช.หลายครั้ง “สช.ได้ออกคำสั่งพักราชการผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. และเสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.)กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรง นอกจากนี้ ยังเสนอ ปลัด ศธ. มอบหมายให้นิติกรแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ดุสิต และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาผู้รับผิดทางละเมิด จากการสอบสวนยังพบว่า บางครั้งโรงเรียนถอนเงินสดนับล้านใส่ซองสีน้ำตาล และจ่ายให้ข้าราชการ สช.ที่เป็นผู้ก่อเหตุที่ธนาคาร หรือบางครั้งมอบให้คนสนิทของเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตซึ่งจะสอบสวนต่อไปว่าคนสนิทเหล่านี้เข้าไปเกี่ยวข้องทุจริตด้วยหรือไม่ โดย รมว.ศธ.กำชับให้จัดการขั้นเด็ดขาด สำหรับโรงเรียนเอกชนที่ได้รับเงินอุดหนุนไม่ครบนั้น เป็นหน้าที่ สช.ที่จะไปจัดหางบประมาณจัดสรรให้ครบต่อไป เพราะถือว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของโรงเรียน” นายอรรถพลกล่าว ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 17 เม.ย. 64 อ่าน 2152 ครั้ง คำค้นหา : |