วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ในฐานะรักษาการประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)
เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่าง
พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงอุดมศึกษา พ.ศ... และร่าง
พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่...) พ.ศ....ซึ่ง
ทปอ.มีมติยืนยันที่จะขอแยกงานการอุดมศึกษาออกจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
โดยจัดตั้งเป็นกระทรวงใหม่ เรียกว่า กระทรวงการอุดมศึกษา ส่วนที่
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ
มีความเห็นว่าควรจะเป็นแยกออกมาเป็นทบวงเท่านั้น
ที่ประชุมไม่ได้หารือในประเด็นนี้
อีกทั้งร่างกฎหมายที่เสนอไปก็คือการขอแยกเป็นกระทรวง
เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบันต้องดูแลเด็กและหลักสูตรตั้งแต่ระดับ
อนุบาลถึงปริญญาเอก หากรมว.ศึกษาธิการ ไม่เข้าใจงานอุดมศึกษา
ก็จะทำให้การพัฒนามหาวิทยาลัยเดินต่อไปไม่ได้
การมีกระทรวงการอุดมศึกษาจึงน่าจะเหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตาม
จากนี้จะเร่งผลักดันร่างกฎหมายผ่านทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกสภา
นิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)
รศ.ดร.ประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเลือก ศ.ดร.ประสาท
สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.)ให้ดำรงตำแหน่ง ประธาน
ทปอ.แทน ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และอดีต
ประธาน ทปอ.ที่ลาออกไปดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข มีผลตั้งแต่วันที่ 1
มกราคม 2558 โดยมีวาระ 1 ปี
ด้าน ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)
ในฐานะคณะทำงานยกร่างกฎหมายแยกกระทรวง กล่าวว่า เดิม
ทปอ.เสนอให้แยกเป็นกระทรวงการอุดมศึกษาและวิจัย แต่จากการหารือร่วมกับ
นายกฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ มีข้อสรุปให้ตัดงานวิจัยออก
และมีการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของ รมว.กระทรวงใหม่
และแก้ไขในส่วนข้อกำหนดเรื่องการตั้งภาควิชาที่ร่างเดิมให้อำนาจรัฐมนตรีแต่
ความจริงเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยจึงแก้ไขให้เป็นตามเดิม
รวมทั้งแก้ไขเรื่องการขออนุมัติหลักสูตร
ซึ่งตามร่างที่เสนอระบุว่าต้องเสนอให้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(สกอ.) อนุมัติ แต่ปัจจุบันเป็นเพียงการรับทราบเท่านั้น
จึงต้องแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ส่วนโครงสร้างของกระทรวงการอุดมศึกษานั้น เดิมกำหนดให้มีหน่วยงานกลางคือ
สำนักงานปลัดกระทรวง และมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตามที่ประชุม
ทปอ.ครั้งนี้ได้เสนอว่า
ควรมีหน่วยงานกลางทำหน้าที่เชื่อมระหว่างสำนักงานปลัดกับมหาวิทยาลัย อาทิ
กรมวิจัย
และกรมที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการประเมินคุณภาพการศึกษาในลักษณะเดียวกับสำนัก
งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) สำหรับอุดมศึกษาด้วย
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 ธันวาคม 2557