สกศ.จัดเวทีถกร่าง พ.ร.บ.ศึกษาชาติที่อุดรฯ

ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยความคืบหน้าการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ...ว่าสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็น 2 ครั้ง ครั้งแรกเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้สรุปความเห็นเบื้องต้นเสนอ รมว.ศธ.แล้ว

ภาพรวมเห็นด้วย 12 มาตราและไม่เห็นด้วย 12 มาตรา ในจำนวนนี้มี 7 มาตราเป็นเรื่องไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเปลี่ยนการเรียกผู้อำนวยการเป็นครูใหญ่ และการเปลี่ยนการเรียกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นใบรับรองความเป็นครู และอำนาจที่ซ้ำซ้อนของเขตพื้นที่กับส่วนภูมิภาค ที่เหลือเป็นเรื่องมาตรา 40 ระบุว่าคุรุสภาจะเป็นผู้ดูแลครูและสวัสดิการครู จึงทำให้มีผู้กังวลว่าเป็นการยุบสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ไปรวมกับคุรุสภาหรือไม่ โดยไม่อยากให้รวม ซึ่งเรื่องนี้ความจริงแล้ว เดิมคุรุสภาก็เคยดูแลเรื่องสวัสดิการครูมาก่อน และมาแยกเป็น สกสค.เมื่อปี พ.ศ.2547 ในการปฏิรูปการศึกษาครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้มีมาตรา 90 ซึ่งมีผู้ไม่เห็นด้วยว่าทำไมต้องตั้งสำนักงานนโยบายการศึกษาแห่งชาติอีก ทำให้ซ้ำซ้อน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด มาตราดังกล่าวไม่เป็นการซ้ำซ้อน เพราะจะปรับฐานะ สกศ.เป็นสำนักงานนโยบายการศึกษาแห่งชาติ มีการระบุไว้ในบทเฉพาะกาลท้ายร่าง พ.ร.บ. มาตรา 91 ไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ซึ่งความจริงมีการให้ กอปศ.เป็นกรรมการนโยบายบางคนเท่านั้น

“สกศ.จะจัดเวทีสาธารณะชี้แจงวันที่ 22 ต.ค.นี้ ที่ จ.อุดรธานี และจะสรุปผลให้ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ภายใน 7 วัน หรือก่อนสิ้น ต.ค. ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับ รมว.ศธ. ซึ่งผมได้เสนอ รมว.ศธ.ว่า หากยังไม่แน่ใจอาจสั่งให้ทำวิจัยระยะสั้น เพื่อแสวงหาความรู้เพิ่มเติมภายใน 90 วันก็ได้ ส่วน สกศ.ก็ต้องเสนอข้อสรุปต่อที่ประชุมสภาการศึกษาปลายเดือน พ.ย.” ดร.สุภัทรกล่าว.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ