เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]
ในที่สุดก็ได้เห็นโรดแม็ปการปฏิรูปการศึกษา เพื่อพัฒนาคนอย่างยั่งยืน
ตามกรอบแนวทางที่คณะกรรมการปฏิรูปได้นำเสนอ มีระยะเวลาตั้งแต่ปี 2558-2564
ตามที่คณะกรรมการอำนวยการปฏิรูปการศึกษา มีมติเห็นชอบข้อเสนอ
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะต้องเร่งดำเนินการ ใน 9 ข้อ
เริ่มจากปรับหลักสูตร ปรับกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
ลดเวลาเรียนที่ซ้ำซ้อน ลดปัญหากวดวิชา
และให้เด็กมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
คู่ขนานไปกับการปรับหลักสูตรอาชีวศึกษา หาทางสร้างแรงจูงใจค่านิยม
ภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อเรียกคนเข้าเรียนอาชีวะเพิ่มขึ้น โดยพัฒนาระบบค่าตอบแทน
สมรรถนะ ความรู้ ความสามารถ ส่วนอุดมศึกษา
หาทางให้ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศ
ผลิตและพัฒนาอาจารย์ให้ไปถึงระดับป.เอก
ขณะเดียวกันการปรับโครงสร้างศธ. อีกรอบ ต้องให้สอดคล้องกับการกระจายอำนาจ
ให้สถานศึกษาบริหารแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนมากขึ้น
โดยที่ส่วนกลางเป็นเพียงดูแลนโยบาย ติดตามประเมินผล
ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพเต็มสูบ
จึงเป็นจังหวะจะได้คืนความสุขให้กับชาวอุดมศึกษา
ด้วยการรับข้อเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) แยกออกจากศธ.
เพราะปรัชญาการจัดการศึกษา กับการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้นแตกต่างกัน
นั่นคือ 3 ข้อแรกที่ดูจะถูกจัดอันดับไว้เป็นความสำคัญต้นๆ ที่อมทุกข์อมโรคอยู่คู่ศธ. มายาวนาน
มองไปอีก 6 ข้อ คือ การพัฒนาครูดี ครูเก่ง
การพัฒนาระบบและกระบวนการได้มาของผู้แทนและองค์กรครูต่างๆ
การปรับระบบการเข้าศึกษาต่อต้องสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาผู้เรียนในแต่ละ
ช่วงวัย ส่งเสริมการเรียนการสอนทางไกล
และปรับระบบอุดหนุนรายหัวทุกระดับทุกประเภท ให้เป็นธรรมมากขึ้น
ดูแล้วเน้นไปภายในบ้านของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
และหน่วยงานอย่างคุรุสภา รวมไปถึงหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดศธ.
จะต้องร่วมแสดงฝีไม้ลายมือให้เป็นที่ประจักษ์
ข้อสุดท้าย คือ การทำแผนแม่บทเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและพัฒนากองทุนฯ
ยังพ่วงติดปลายมาด้วย ซึ่งทั้ง 9 เรื่องนี้ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
มีเรื่องใดที่คนศธ. ไม่เคยได้ยินมั่ง โปรดยกมือขึ้น
ยกเว้น เลขาธิการ กพฐ. และเลขาธิการ กอศ. ลูกหม้อแท้ๆ ศธ. จำได้ป่ะ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557