จับตาหนังสือเรียน 59 เลาะเลียบคลองผดุงฯ
เป็นผลพวงมาจาก หัวหน้าคณะทำงานกำหนดแนวทางการประเมินประสิทธิภาพและติดตามการดำเนินงานของ สกสค. เตรียมเสนอ รมว.ศธ. ให้พิจารณาสั่งการ สพฐ.ขอความร่วมมือร.ร.ในสังกัดทั่วประเทศ สั่งซื้อแบบเรียน 4 กลุ่มสาระหลัก วิทย์ คณิต ภาษาไทย และสังคมศึกษา ระดับชั้น ป.1-6 ตรงจากองค์การค้าฯ ข้ออ้างสำคัญ คือ ช่วยบรรเทาปัญหาขาดทุนในองค์การค้าฯ ที่วันนี้มีมูลหนี้สะสมกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งตลอดเวลาล่วงมาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีความกระจ่างว่ายังจะยืนยันในนโยบายอุ้มองค์การค้าฯ ด้วยลักษณะผูกขาดเช่นนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งอาจต้องเสี่ยงต่อการกระทำที่ขัดกับข้อกฎหมายอีกหลายฉบับ และเชื่อว่าในที่สุดสมาคมผู้ผลิตและจำหน่ายสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษา อาจยื่นถึงศาลปกครองด้วยซ้ำ สังเกตได้จากสมาคมผู้ผลิตและจำหน่ายสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษา เริ่มเปิดเกมรุกโดยทำหนังสือถึงเลขาธิการกพฐ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอให้รีบประกาศต่อสาธารณชนให้ชัดเจนว่าจะตัดสินใจยังให้อิสระแก่โรงเรียนตาม วิธีปฏิบัติเดิมหรือไม่อย่างไร นั่นหมายถึง การให้อิสระแก่โรงเรียนในสังกัดทั่วประเทศ เลือกซื้อหนังสือเรียนปีการศึกษา 2559 ที่ให้คณะกรรมการสถานศึกษาร่วมกับภาคี 4 ฝ่าย (ครู ผู้ปกครอง กรรมการนักเรียน และผู้แทนชุมชน) พิจารณาเลือกซื้อหนังสือเรียนจากสำนักพิมพ์ทั่วไปที่ได้รับการรับรองถึง คุณภาพและใบอนุญาต ศธ. หรือหาก สพฐ.ดำเนินตามนโยบายใหม่ ก็น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ที่ให้สิทธิเสรีภาพเอกชนผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือเรียนฯ, พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ, กฎหมายฮั้ว และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แน่นอนว่าอาจจะกลายเป็นเผือกร้อนในมือรัฐบาลที่จะต้องลงมาตอบคำถาม หากหนังสือเรียน 39 ล้านเล่มปีการศึกษา 2559 ไม่ถึงโรงเรียน ครู และนักเรียนครบถ้วนหรือล่าช้า อันเนื่องมาจากนโยบายอันลุกลี้ลุกลนของผู้นำเสนอที่รีบเร่งเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง
|
โพสเมื่อ : 22 ธ.ค. 58 อ่าน 1379 ครั้ง คำค้นหา : |