![]() |
เมื่อวันที่ 8 มกราคม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้บริหาร ศธ.รับทราบผลการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ ปิซ่า โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานความก้าวหน้าการขยายผลการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบในระดับเขตพื้นที่ทั้ง 245 เขต ขณะนี้ลงทะเบียน 176,465 ราย อบรมเสร็จแล้ว 44,584 ราย ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของสำนักงานเลขาธิารสภาการศึกษา (สกศ.) ได้นำเสนอข้อมูลที่จะเข้ามาช่วยยกระดับการศึกษา ซึ่งปัจจัยสำคัญคือฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว ที่ส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนอย่างทวีคูณ ดังนั้น การยกระดับปิซ่าจึงต้องให้ความสำคัญครอบคลุมไปถึงครอบครัว ซึ่ง ศธ.ได้รับข้อมูลในส่วนนี้แล้วก็จะเร่งแก้ไขเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวต่อว่า อีกประเด็นสำคัญที่ สกศ.ได้รายงานมาคือผลการสอบ PISA-Based Test for School หรือ PBTS 2023 เชื่อมโยงกับคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่หากสามารถพัฒนาผลการทดสอบโอเน็ตได้ ก็จะทำให้ผลทดสอบปิซ่าดีขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนของโอเน็ตทางศธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะขอความร่วมมือ จากนักเรียนเพื่อให้เข้ามาสอบโอเน็ต เพื่อนำผลมาพัฒนาการเรียนการสอน โดยในส่วนของการพัฒนาความรู้ของผู้เรียน สพฐ.จะรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลหลักเพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป “ที่ผ่านมาเด็กสมัครสอบโอเน็ตจำนวนมาก แต่ไปเข้าสอบน้อย จึงมอบให้ สพฐ.ไปหาแนวทางและวิธีการสร้างความสนใจและดึงดูดใจให้เด็กสมัครใจเข้าสอบทุกคน 100% เพื่อนำผลโอเน็ตมาพัฒนาการเรียนการสอน จัดสอนเสริมและติวให้กับเด็กที่ยังอ่อนในวิชาต่างๆ และนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรในแต่ละช่วงชั้นให้ทันสมัยต่อไป” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว... พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้รายงานเรื่องของโครงการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหา เด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา และเด็กตกหล่น ซึ่ง สกศ.ได้รายงานผลของการดึงเด็กทั้งหมดกลับเข้ามาซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจที่สามารถติดตามเด็กจาก 1,025,514 ราย ได้แล้วกว่า 557,277 ราย และยังไม่ได้ติดตาม 468,237ราย โดยในจำนวนนี้มีเด็กการศึกษาภาคบังคับ ช่วงอายุ 6-15 ปี ตกหล่นจำนวน 442,962 คน ติดตามแล้ว 176,450 คน คิดเป็นร้อยละ 39.83 ยังไม่ได้ติดตาม 266,512 คน “คาดว่าปีนี้จะสามารถทำได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะทุกหน่วยงานมีการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เองก็มีบทบาทสำคัญในการให้การศึกษากับเด็กที่ไม่ได้อยู่ในระบบตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ไปอยู่ในต่างประเทศ เด็กที่อยู่ในสถานพินิจ หรือเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยในส่วนของเด็กที่อยู่ต่างประเทศนั้น ถือเป็นเด็กส่วนใหญ่ ในกลุ่มนี้ผมได้มอบหมายให้ทางสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อติดตามและนำการศึกษาไปเติมเต็มให้” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/education/news_4989585 |
โพสเมื่อ : 09 ม.ค. 68 อ่าน 349 ครั้ง คำค้นหา : |