สางปมเหลื่อมล้ำ...? : “ทีแคส” รวมมิตรระบบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยหวังแก้ปัญหาการศึกษา



เหลื่อมล้ำ...กั๊กที่...กันสิทธิคนอื่น....วิ่งรอกสอบ....มหาวิทยาลัยแย่งเด็ก ...สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย

สารพัดที่เป็นผลกระทบด้านลบต่อการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ที่เรื้อรัง ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่ฉุดรั้งคุณภาพการศึกษาไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทุกรัฐบาลมีนโยบายต้องเข้าไปปรับปรุง แก้ไข หรือต้องปฏิรูปอย่างจริงจัง

ตั้งแต่ระบบการรับในภาพรวม ที่รับสมัครนักเรียนทั่วประเทศ คือระบบเอ็นทรานซ์, เอ็นทรานซ์ระบบใหม่, ระบบแอดมิชชั่นกลางและการรับสมัครเองโดยมหาวิทยาลัย คือระบบรับตรง, โควตาและล่าสุดที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)โดยศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะประธาน ทปอ. ก็ได้ประกาศระบบการคัดเลือกใหม่ที่เรียกว่า

ทีแคส... การรับสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง Thai university Central Admission System (TCAS)โดยเริ่มใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของความพยายาม“ยกเครื่อง”ระบบการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ของ ทปอ.และรัฐบาล

หลักการสำคัญของทีแคสคือ 1.นักเรียนต้องอยู่ในห้องเรียนจนจบ ม.6 ก่อนมีการสอบข้อเขียน 2.นักเรียนต้องไม่วิ่งรอกสอบ 3.ระบบการรับเข้าไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียนมากเกินไป 4.นักเรียนมีสิทธิเลือกสาขาที่ต้องการเรียน 5.มหาวิทยาลัย/สถาบัน สามารถเลือกนักเรียนตรงกับความต้องการตนเองได้

ทีมการศึกษาขอทำหน้าที่ฉายภาพ ทีแคส เพื่อให้เกิดความชัดเจนและกระจ่างขึ้น

ทีแคสคือ การรวมระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน แล้วนำมากระจายตัวแบ่งเป็น 5 รอบ และกำหนดระยะเวลาการสมัครและสอบให้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยผู้ผ่านการคัดเลือกยืนยันสิทธิ์ผ่านระบบเคลียร์ริ่งเฮ้าส์

เริ่มจากรอบที่ 1 รับด้วยแฟ้มสะสมงาน หรือ Portfolio โดยไม่มีการสอบข้อเขียน สำหรับ นร.ทั่วไป นร.ที่มีความสามารถพิเศษ โควตา นร.เครือข่าย ยื่นรับสมัครโดยตรงกับมหาวิทยาลัยแบ่งการรับออกเป็น 2 ครั้ง ครั้งที่ 1.1 รับสมัครและคัดเลือกวันที่ 1 ต.ค.-30 พ.ย.60 เคลียร์ริ่งเฮาส์ วันที่ 15-19 ธ.ค.60 ประกาศผล วันที่ 22 ธ.ค.60 ครั้งที่ 1.2 รับและคัดเลือก วันที่ 22 ธ.ค.60-วันที่ 28 ก.พ.61 เคลียร์ริ่งเฮาส์ วันที่ 19-22 มี.ค.61 ประกาศผล วันที่ 26 มี.ค.61

รอบที่ 2 การรับแบบโควตาที่มีการสอบข้อเขียนหรือการสอบภาคปฏิบัติ สำหรับ นร.ที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาค โควตา ร.ร.ในเครือข่าย และโครงการความสามารถพิเศษต่างๆ สถาบันอุดมศึกษาประกาศหลักเกณฑ์การสอบ ยื่นสมัครโดยตรงกับสถาบันอุดมศึกษาใช้ข้อสอบกลางวิชาสามัญ 9 วิชา และข้อสอบ GAT-PAT ภายในเดือน ธ.ค.60-เม.ย.61 เคลียร์ริ่งเฮาส์ วันที่ 3-6 พ.ค.61 ประกาศผล วันที่ 8 พ.ค.61

รอบที่ 3 การรับตรงร่วมกัน สำหรับ นร.กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทยและโครงการอื่นๆ และ นร.ทั่วไป ทปอ. เป็นหน่วยงานกลางในการรับสมัครรับสมัครผ่านเว็บไซต์ของ ทปอ.http://a.cupt.net ผู้สมัครเลือกได้ 4 สาขาแบบไม่มีลำดับโดยภาพรวมของรอบนี้จะมีขึ้นช่วงวันที่ 9-22 พ.ค.61 แยกเป็น รับสมัครวันที่ 9-13 พ.ค.61 ชำระค่าสมัครวันที่ 9-14 พ.ค.61 ทปอ.ส่งข้อมูลการสมัครให้มหาวิทยาลัยวันที่ 16 พ.ค.61 สถาบันอุดมศึกษาประมวลผล จัดส่งรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกให้ ทปอ.วันที่ 23 พ.ค.61 เคลียร์ริ่งเฮาส์ วันที่ 26-28 พ.ค.61 ทปอ.ส่งชื่อให้สถาบันอุดม-ศึกษาเพื่อสอบสัมภาษณ์ วันที่ 30 พ.ค.61 สอบสัมภาษณ์/ สถาบันยืนยันสิทธิ์ วันที่ 4-5 มิ.ย.61 ประกาศผลวันที่ 8 มิ.ย.61

รอบที่ 4 การรับแบบแอดมิชชั่นกลาง สำหรับ นร.ทั่วไป โดย ทปอ.จะเป็นหน่วยงานกลางในการรับสมัคร นร.เลือกสมัครได้ใน 4 วิชา แบบมีลำดับรับสมัครวันที่ 6-10 มิ.ย.61 ชำระค่าสมัครวันที่ 6-11 มิ.ย.61 ประกาศผลวันที่ 13 ก.ค.61

รอบที่ 5 การรับตรงอิสระ สถาบันอุดมศึกษารับโดยตรงด้วยวิธีการของสถาบันเองโดยจะต้องเสร็จสิ้นและส่งข้อมูลให้ ทปอ. ภายในเดือน ก.ค.61

ศ.ดร.สุชัชวีร์กล่าวถึงการปรับระบบการคัดเลือกในครั้งนี้ว่า“ทปอ. มุ่งหวังที่จะลดความเหลื่อมล้ำ โดยทุกคนจะมีคนละ 1 สิทธิเท่ากัน ส่วนการสมัครแต่ละรอบ แม้เด็กๆจะสมัครได้หลายแห่ง แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกเรียนที่ใดที่หนึ่งอยู่ดี การสมัครหลายแห่งก็จะทำให้เหนื่อยและเสียค่าใช้จ่ายมากเกินจำเป็น ซึ่ง ทปอ.ก็จะเดินหน้าชี้แจงทำความเข้าใจกับเด็กๆในโรงเรียนต่างๆให้รู้จักสิทธิของตนเอง แต่ก็ต้องคำนึงถึงผู้อื่นด้วย เพราะสังคมเราจะอยู่ได้ ต้องเอื้อต่อกัน และเริ่มได้ที่ตัวเราก่อน”

“ทีมการศึกษา”มองว่าเป้าหมายของ ทปอ.ซึ่งต้องการลดความเหลื่อมล้ำ ให้ทุกคนมี 1 สิทธิเท่าเทียมกัน น่าจะเป็นหนึ่งในคำตอบที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาของอุดมศึกษา

แต่สิ่งที่ต้องทำควบคู่กับการแก้ไขระบบคือ การปรับ เปลี่ยนค่านิยมสังคมไทย โดยทุกฝ่ายร่วมมือกัน ตั้งแต่ระดับโรงเรียน ที่จะ ต้องสร้างระบบการแนะแนวที่เข้มแข็ง ทำให้เด็กค้นพบศักยภาพและความต้องการของตนเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสมัครเผื่อเลือกไว้หลายแห่งมากเกินไป แม้ว่าจะมีฐานะดีก็ตาม ขณะที่มหาวิทยาลัยก็ต้องจริงใจที่จะช่วยกันทำให้หลักการของระบบทีแคส ประสบความสำเร็จตามที่วางเป้าหมายไว้ ไม่มีใครแตกแถวรับเด็กด้วยวิธีการอื่น เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องปรับระบบการคัดเลือกซ้ำแล้วซ้ำอีก

เพราะนั่นหมายถึงการเพิ่มปัญหาลงบนระบบการศึกษาให้ยิ่งอ่อนแอลงกว่าที่เป็นอยู่.

ทีมการศึกษา


ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ


โพสเมื่อ : 13 มิ.ย. 60   อ่าน 1493 ครั้ง      คำค้นหา :