![]() |
350 นิยาย-เรื่องสั้น กวี-สารคดี-เยาวชนกระทรวงวัฒนธรรมประกาศผลคัดเลือกวรรณกรรมยอดเยี่ยมในสมัยรัชกาลที่ 9 ตามศาสตร์พระราชา ที่เป็นงานเขียนอันทรงคุณค่าถือเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของแผ่นดิน ยกย่องนิยาย อาทิ “เขาชื่อกานต์-ทุ่งมหาราช-ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด-ผู้ใหญ่ลีกับนางมา-ลูกอีสาน-ไผ่แดง-ทองเนื้อเก้า-พล นิกร กิมหงวน-เพชรพระอุมา” ส่วนเรื่องสั้น “ขุนทองจะกลับเมื่อฟ้าสาง-ฟ้าบ่กั้น-ดอกไม้ในถังขยะ” ประเภทสารคดี “คู่มือมนุษย์” พุทธทาสแต่ง ประเภทวรรณกรรมเด็กและเยาวชน “บึงหญ้าป่าใหญ่-ผีเสื้อและดอกไม้-ครูไหวใจร้าย” เรื่องราวในแวดวงวรรณกรรมที่นักอ่านหนังสือไม่ควรพลาดครั้งนี้ มีขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่สำนักหอสมุดแห่งชาติ เมื่อ 18 ธ.ค. กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกวรรณกรรม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลย เดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีแนวคิดตามศาสตร์พระราชาและเปิดตัวหนังสือ “วรรณกรรมยอดเยี่ยมในสมัยรัชกาลที่ 9 ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา” นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ ตระหนักในความสำคัญของแนวพระราชดำริและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่องานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ประกอบกับทรงเป็นองค์อัครศิลปิน จึงได้เชิญศิลปินแห่งชาติ นักประพันธ์ นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาษาและวรรณกรรม ร่วมเป็นคณะกรรมการ พิจารณาคัดเลือกวรรณกรรมในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่มีแนวคิดตามศาสตร์พระราชา 5 ประเภท ได้แก่ นวนิยาย เรื่องสั้น กวีนิพนธ์ สารคดี วรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชนที่มีแนวคิดตามศาสตร์พระราชา นายอิทธิพลกล่าวต่อว่า ผลคัดเลือกวรรณกรรมยอดเยี่ยม 5 ประเภท ประเภทละ 70 เรื่อง ดังนี้ 1.ประเภทนวนิยายวรรณกรรมยอดเยี่ยม 9 เรื่อง ได้แก่ เขาชื่อกานต์ ผู้แต่ง สุวรรณี สุคนธา, ทุ่งมหาราช ผู้แต่ง มาลัย ชูพินิจ, บางกะโพ้ง ผู้แต่ง วินทร์ เลียววาริณ, บุษบกใบไม้ ผู้แต่ง กฤษณา อโศกสิน, ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด ผู้แต่ง โบตั๋น, ผู้ใหญ่ลีกับนางมาผู้แต่ง กาญจนา นาคนันทน์, แผ่นดินนี้ยังรื่นรมย์ ผู้แต่ง ศรีฟ้า ลดาวัลย์, ไผ่แดง ผู้แต่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และลูกอีสาน ผู้แต่ง คำพูน บุญทวี กับวรรณกรรมดีเด่นอีก 61 เรื่อง อาทิ ครูบ้านนอก โดยคำหมาน คนไค, ความรักของวัลยา โดยเสนีย์ เสาวพงศ์, ความสุขของกะทิ โดยงามพรรณ เวชชาชีวะ, คำพิพากษา โดยชาติ กอบจิตติ, ทองเนื้อเก้า โดยโบตั๋น, ธรณีนี่นี้ใครครอง โดยกาญจนา นาคนันทน์, พล นิกรกิมหงวน โดย ป.อินทรปาลิต, เพชรพระอุมา โดย พนมเทียน, รัตนโกสินทร์ โดย ว. วินิจฉัยกุล เป็นต้น 2.ประเภทเรื่องสั้นวรรณกรรมยอดเยี่ยม 9 เรื่อง ได้แก่ ขุนทองเจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง ผู้แต่งอัศศิริ ธรรมโชติ แจ่มรัศมีจันทร์และรวมเรื่องสั้นเกือบทั้งชีวิตของ เสนีย์ เสาวพงศ์ ผู้แต่ง เสนีย์ เสาวพงศ์ แผ่นดินอื่น ผู้แต่ง กนกพงศ์ สงสมพันธุ์, ฟ้าบ่กั้น ผู้แต่ง ลาวคำหอม, รวมเรื่องสั้นคึกฤทธิ์ปราโมชผู้แต่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช, รวมเรื่องสั้นรับใช้ชีวิตของศรีบูรพา ผู้แต่ง ศรีบูรพา เรื่องสั้นนอกเหมืองแร่ ผู้แต่ง อาจินต์ ปัญจพรรค์ สวนสัตว์ ผู้แต่ง สุวรรณี สุคนธา และสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ผู้แต่ง วินทร์ เลียววาริณ กับวรรณกรรมดีเด่นอีก 61 เรื่อง อาทิ เจ้าหงิญ ผู้แต่ง บินหลา สันกาลาศีรี, ชานหมากนอกกระโถน ผู้แต่ง ขรรค์ชัย บุนปาน, ซอยเดียวกัน ผู้แต่ง วาณิช จรุงกิจอนันต์, ดอกไม้ในถังขยะ ผู้แต่ง รงค์ วงษ์สวรรค์ 3.ประเภทกวีนิพนธ์วรรณกรรมยอดเยี่ยม 9 เรื่อง ได้แก่ ขอบฟ้าขลิบทอง ผู้แต่ง อุชเชนี, บทกวีของฉัน : จ่าง แซ่ตั้ง ผู้แต่ง จ่าง แซ่ตั้ง, ปณิธานกวี ผู้แต่ง อังคาร กัลยาณพงศ์, พุทธทาสธรรมคำสอนเส้นทางสู่ความสุขเย็น ผู้แต่ง พุทธทาสภิกขุ, เพียงความเคลื่อนไหว ผู้แต่ง เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, ม้าก้านกล้วย ผู้แต่ง ไพวรินทร์ ขาวงาม, รวมบทกวีและงานวิจารณ์ศิลปวรรณคดีของกวีการเมือง ผู้แต่ง กวีการเมือง, เราชะนะแล้ว แม่จ๋า ผู้แต่งนายผี, ศึกษาภาษิตและร้อยกรอง ผู้แต่ง ฐะปะนีย์ นาครทรรพ กับวรรณกรรมดีเด่นประเภทละ 61 เรื่อง อาทิ กาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ กาลเวลา ผู้แต่ง อดุล จันทรศักดิ์, ทะเล ปาภู และเพิ่งพัก ผู้แต่ง พนม นันกพฤกษ์ เป็นต้น 4.ประเภทสารคดีวรรณกรรมยอดเยี่ยม 9 เรื่อง ได้แก่ กาเลหม่านไต ผู้แต่ง บรรจบ พันธุเมธา, ขบวนการแก้จน ผู้แต่ง ประยูร จรรยาวงษ์, ความเป็นมาของคำสยามไทย ลาวและขอมและลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ ผู้แต่ง จิตร ภูมิศักดิ์,คู่มือมนุษย์ ผู้แต่ง พุทธทาสภิกขุ ชีวิตที่เลือกไม่ได้ : อัตชีวประวัติของผู้ที่เกิดในแผ่นดินไทยคนหนึ่ง ผู้แต่ง กรุณา กุศลาสัย, น้ำบ่อเกิดแห่งวัฒนธรรมไทย ผู้แต่ง สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา,พุทธธรรม ผู้แต่ง พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตโต) เพลงนอกศตวรรษ ผู้แต่ง เอนก นาวิกมูล, ฟื้นความหลัง ผู้แต่ง เสฐียรโกเศศ รวมทั้งยังมีวรรณกรรมดีเด่น อีก 61 เรื่อง อาทิ ความเป็นอนิจจังของสังคม ผู้แต่ง ปรีดี พนมยงค์, ปัญญาชนสยาม ผู้แต่ง ส.ศิวรักษ์, ปากไก่ และใบเรือ : รวมความเรียง ผู้แต่ง นิธิ เอียวศรีวงศ์ เป็นต้น 5.ประเภทวรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชนวรรณกรรมยอดเยี่ยม 9 เรื่อง ได้แก่ เกาะที่มีความสุขที่สุดในโลก ผู้แต่ง ลินดา โกมารชุน, ขวัญสงฆ์ ผู้แต่ง ชมัยภร แสงกระจ่าง, ต้นเอ๋ยต้นไม้ ผู้แต่งและภาพประกอบ จารุพงษ์ จันทรเพชร, บึงหญ้าป่าใหญ่ ผู้แต่ง เทพศิริ สุขโสภา, ผีเสื้อและดอกไม้ ผู้แต่ง นิพพานฯ ภาพประวัติศาสตร์ (กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น) ผู้แต่ง เปลื้อง ณ นคร ภาพประกอบ เหม เวชกร, เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก (เล่ม 1-4) ผู้แต่ง ทิพย์วาณี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ภาพประกอบ ปีนัง แม่โพสพ ผู้แต่ง ม.ล.เติบ ชุมสาย ภาพประกอบ อุดมลักษณ์ ทรงสุวรรณ และ “เรือใบใจกล้า” ในหนังสือชุดสำหรับเยาวชน : หนังสือสื่อประสมเฉลิมพระเกียรติ ผู้แต่งและภาพประกอบ วิภาวี ฉกาจทรงศักดิ์ และคณะ วรรณกรรมดีเด่นประเภทละ 61 เรื่อง อาทิ ครูไหวใจร้าย ผู้แต่ง ผกาวดี อุตตโมทย์, กระต่ายต้องหาโพรง ผู้แต่ง คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์ ภาพประกอบ นันทวัน วาตะ เป็นต้น นายอิทธิพลกล่าวอีกว่า ได้จัดพิมพ์หนังสือ “วรรณกรรมยอดเยี่ยมในสมัยรัชกาลที่ 9 ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา” เพื่อเผยแพร่วรรณกรรมอันทรงคุณค่าแห่งรัชสมัย สะท้อนแนวคิดศาสตร์พระราชาที่รัชกาลที่ 9 มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานไว้เป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิตของชาวไทยเป็นแนวทางในการพัฒนาชาติ รวมทั้งเชิดชูเกียรติศิลปินนักประพันธ์วรรณกรรมไว้เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ และเตรียมประสานกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาวรรณกรรมยอดเยี่ยมสำหรับเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ กรมศิลปากรได้เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม โดยพัฒนาระบบการจำหน่ายหนังสือออนไลน์ขึ้นเพื่อให้ประชาชนสั่งซื้อหนังสือที่กรมศิลปากรจัดพิมพ์ ผ่านทาง http://bookshop.finearts.go.th อีกด้วย ด้าน ศ.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ประธานอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกวรรณกรรมประเภทนวนิยาย กล่าวว่างานวรรณกรรมทั้ง 5 ประเภท ถือว่าสำคัญและมีสาระน่าสนใจ ผลการพิจารณาครั้งนี้ครอบคลุมทุกประเภทวรรณกรรมทั้ง 70 เรื่อง ล้วนสร้างสรรค์ตลอด 70 ปีครองราชย์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ภาพรวมหนังสือ 350 เรื่องที่คัดเลือกมาได้น้อมนำศาสตร์พระราชามานำเสนออย่างมีวรรณศิลป์ถ่ายทอดเรื่องความเพียร ความมีสติ การเกื้อกูล การปฏิบัติหน้าที่ของตน การรักธรรมชาติ รักแผ่นดิน รักศิลปวัฒนธรรม และมีความเข้าใจรากเหง้าวิถีไทย การรักษาวิถีดั้งเดิมปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ รวมถึงการกินอยู่อย่างพอมีพอกิน นอกจากนี้ ยังเสนอเรื่องความฉ้อฉลการไม่ย่อท้อและจำนนต่อชะตากรรม ไม่ท้อแท้แม้เผชิญอุปสรรคบากบั่นวิริยะอดทน ปลุกจิตสำนึกความเป็นธรรมในสังคม ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 19 ธ.ค. 62 อ่าน 1293 ครั้ง คำค้นหา : |