ทปอ.เผยเรียก “ตัวสำรอง” รอบแอดมิชชัน ชี้สละสิทธิ์อื้อทำที่นั่งว่างเพียบ



ดร.พีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้จัดการระบบการ คัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคสของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ชี้แจงระบบทีแคสปีการศึกษา 2564 ว่า ทีแคสปี 2564 มีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับเด็กรุ่นใหม่และสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งปีนี้ได้มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนจากเดือน พ.ค.63 เป็นเดือน ก.ค.63 ซึ่งจากการหารือกับทุกฝ่ายแล้ว ทปอ. จึงได้ขอความร่วมมือให้โรงเรียนจัดตารางเรียน ให้นักเรียนชั้น ม.6 สอบปลายภาคให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 19 มี.ค.2564 ส่วนกระบวนการของระบบทีแคส จะให้เสร็จภายในวันที่ 15 มิ.ย.64 

สำหรับรูปแบบการคัดเลือกยังคง 5 รูปแบบ คือ 1.แฟ้มสะสมงาน 2.โควตา 3.รับตรงร่วมกันหรือแอดมิชชัน (1) 4.แอดมิชชัน (2) และ 5.รับตรงอิสระ แต่สิ่งที่ทีแคสปี 2564 มีการเปลี่ยนแปลงคือ มีรอบการรับสมัครลดลงเหลือ 4 รอบ ได้แก่ 1.รอบแฟ้มสะสมผลงาน 2.รอบโควตา 3.รอบแอดมิชชัน โดยรวมรอบแอดมิชชัน (1) และแอดมิชชัน (2) ไว้ด้วยกัน สมัครได้สูงสุดไม่เกิน 10 อันดับ โดยอันดับที่ 1 คือ สาขาวิชาที่ต้องการเข้าศึกษามากที่สุด และมีการประกาศผล 2 ครั้ง เพื่อเรียกตัวสำรองทดแทนการไม่ใช้สิทธิหรือสละสิทธิ และ 4 รอบรับตรงอิสระ

“จากข้อมูลการสละสิทธิ์ของนักเรียนพบว่า ปีการศึกษา 2561-2562 เด็กสละสิทธิ์ในแต่ละรอบจำนวนมาก โดยจำนวนผู้สละสิทธิ์รวมตั้งแต่รอบ 1-5 ปีการศึกษา 2562 มีจำนวน 10,724 คน ปีการศึกษา 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 12,815 คน เมื่อแยกตามรอบจะเห็นว่าทีแคสรอบ 3 มีคนสละสิทธิ์ 4,727 คน รอบ 4 สละสิทธิ์ 3,387 คน โดยคนที่สอบได้คณะที่เลือกเป็นอันดับที่ 1 สละสิทธิ์ 2,998 คน ซึ่ง ทปอ.ได้รับเสียงสะท้อนจากนักเรียนและผู้ปกครองว่า เมื่อมหาวิทยาลัยมีที่นั่งเหลือ ทำไม ทปอ.จึงไม่เรียกคนเพิ่ม ซึ่ง ทปอ.ไม่สามารถทำได้เพราะได้ปิดระบบการประมวลผลไปแล้ว และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่นั่งว่างจากการสละสิทธิ์ ดังนั้นทีแคส 2564 จะแก้ปัญหาที่นั่งว่างโดยจะมีการประมวลผล 2 ครั้ง โดยให้โอกาสคน
ที่สอบได้อันดับที่ 2-10 และคนที่ยังสอบไม่ติด เข้ารับการประมวลผลครั้งที่ 2 หรือจะเรียกว่าตัวสำรองก็ได้”

ดร.พีระพงศ์กล่าวและว่า นอกจากนี้เนื้อหาการสอบวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ทั้งหมด จะมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับหลักสูตรใหม่ โดยให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นผู้ออกข้อสอบ สำหรับรอบแฟ้มสะสมผลงาน นักเรียนจะต้องทำผลงานด้วยตนเอง ไม่ควรจ้างใครทำ รวมทั้งห้ามแก้ไขข้อมูลคะแนนต่างๆ เพราะถือว่าผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณทุกวิชาชีพ ซึ่งขอฝากให้พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยกันดูแลนักเรียนด้วย หากพบการปลอมเอกสาร ทปอ.
อาจพิจารณาเอาผิดตามกฎหมาย.


ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ


โพสเมื่อ : 06 ส.ค. 63   อ่าน 1941 ครั้ง      คำค้นหา :