ห่วง! อีก 17 วันเปิดประชาคมอาเซียน แต่คนไทยยังเข้าใจน้อยมาก



เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์สุขุมวิท กรุงเทพฯ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านสวัสดิการสังคมและการ พัฒนาด้านสิทธิสตรีและสิทธิเด็กและสภาคนพิการไทยสู่อาเซียนหัวข้อ"ก้าวไป ข้างหน้าสู่ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนพ.ศ.2568"จัดโดยกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. นายวงศ์เทพ อรรถไกวัลวที รองเลขาธิการอาเซียนด้านประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เข้ารับฟังด้วย ว่า ประชาคมอาเซียนจะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ความร่วมมือด้านต่างๆในประเทศสมาชิกอาเซียนจากความเป็นเพื่อนจะ ใกล้ชิดเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันการดำเนินการทั้ง3เสาหลักทั้งเสาการเมือง และความมั่นคงเสาเศรษฐกิจและเสาสังคมและวัฒนธรรมจะสำเร็จลุล่วงได้ ไม่เฉพาะการทำงานของภาครัฐเท่านั้นแต่ต้องอาศัยภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ด้วยโดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจและตระหนักในกลุ่มเด็กเยาวชนสตรีผู้พิการผู้ ด้อยโอกาสเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับประโยชน์จาก ประชาคมอาเซียน

ขณะที่พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่าแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนพ.ศ.2558-2568 ซึ่งเป็นแผนงานฉบับใหม่สำหรับ10 ปีข้างหน้าที่ผู้นำอาเซียนได้ให้การรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 27ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบหลักคือ 1.เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์มุ่งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบ ทางสังคมของประชาชนอาเซียน2.มีความครอบคลุมมุ่งส่งเสริมการเข้าถึงโอกาส อย่างเท่าเทียมและส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน3.มีความยั่งยืนมุ่งส่ง เสริมการพัฒนาสังคมที่สมดุลและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน4.มีภูมิคุ้มกันมุ่ง ยกระดับความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อความเสี่ยงทางสังคมและเศรษฐกิจ ภัยพิบัติทางธรรมชาติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและ5.มีพลวัตมุ่งสร้าง สรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและเป็นสมาชิกประชาคมโลกที่มีบทบาทสูง

นายวงศ์เทพกล่าวว่า เด็กและเยาวชนวันนี้จะต้องเติบโตในบริบทอาเซียนทำอย่างไรให้เด็กและเยาวชนมี บทบาทและตระหนักถึงประโยชน์ในการสร้างความเป็นวัฒนธรรมอาเซียนร่วมกันทั้ง นี้การศึกษามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการนำไปสู่การพัฒนารวมถึงการสร้าง วัฒนธรรมภูมิคุ้มกันป้องกันภัยต่างๆ

นายเกษมสันต์ วีระกุล นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญ AEC กล่าวว่า ประเทศไทยตื่นตัวและเข้าใจความเป็นประชาคมอาเซียนน้อยมาก โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่อ่อนแอมากทั้งที่ลงทุนสูงเป็นอันดับ2 ของโลก แต่สมองเด็กไทยโง่เป็นอันดับบ๊วยๆ การ เติบโตของเศรษฐกิจก็อ่อนแอลงทุกปี สื่อส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าใจในเนื้อแท้สาระความเป็นประชาคมอาเซียน จึงเป็นโอกาสที่ต้องเร่งปรับตัวโดยเรียนรู้จากประเทศเพื่อนบ้านเราเองเช่น การปฏิรูปการศึกษาขอให้ไปดูแบบอย่างของสิงคโปร์และมาเลเซียที่เคยอ่อนด้อย แต่ขณะนี้มีความก้าวหน้ากว่าไทยอย่างมาก

 

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 15 ธันวาคม 2558


โพสเมื่อ : 16 ธ.ค. 58   อ่าน 1373 ครั้ง      คำค้นหา :