กอปศ.ชง 6 วาระเร่งด่วนก่อนพ้นหน้าที่

ก.ย.นี้ ยื่นแผนปฏิรูปด้านศึกษา หวั่นพิษโครงสร้างขอปรับบทบาทแทน

นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาที่มีการปรับปรุงใหม่ แต่ยังคงสาระสำคัญไว้ 6 ประเด็น รวมไปถึงการปรับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งมีความเห็นจากกรรมการหลายคนอยากให้เปลี่ยนมาเป็นการปฏิรูปบทบาทหน้าที่ และอำนาจของหน่วยงาน ศธ. นอกจากนี้ได้หารือถึงมาตรการเร่งด่วนในการปฏิรูปการศึกษาให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมก่อนที่ กอปศ.จะหมดวาระวันที่ 30 พ.ค.62 เพื่อเสนอรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี 6 เรื่อง คือ 1.การให้ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯผ่านการพิจารณาสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ รวมถึงกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้อง 2.การออกกฎกระทรวงเพื่อให้อิสระกับสถานศึกษาซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการจัดการศึกษา 3.ดิจิตอลแพลตฟอร์ม 4.ระบบการผลิตและคัดกรองครู 5.การจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ระดับ ป.1 ขึ้นไป และ 6.กรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ที่จะเตรียมโครงสร้างและวิธีทำงานเพื่อให้กรรมการดำเนินการได้ทันที ทั้งนี้ จะเสนอแผนปฏิรูปฯ ภายใน 4 ก.ย.นี้

“หลัง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติมีผลใช้บังคับ การปฏิรูปโครงสร้าง ศธ.ที่เปลี่ยนแปลงหน่วยงานแรกคือสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ที่จะไปทำหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ เพราะ กอปศ.เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งหน่วยงานใหม่ ส่วนหน่วยงานที่เหลือของ ศธ.จะไปกำหนดในบทเฉพาะกาลให้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อปรับโครงสร้าง ศธ. ให้สอดคล้องกับแผนปฏิรูป โดยนำระบบกลไก และโครงสร้างต่างๆ ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติมาดำเนินการ” นพ.จิรุตม์กล่าว

ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ช่วงระยะเร่งด่วนที่ กอปศ.ปฏิบัติหน้าที่ ระยะเวลา 5 ปี และระยะเวลา 10 ปี โดยการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาจะสมบูรณ์ 100% ภายใน 10 ปี ส่วนการปฏิรูปโครงสร้าง ศธ.จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือหน่วยงานนโยบาย หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานสนับสนุน และหน่วยงานปฏิบัติ.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ