เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 ครูบ้านนอก.คอม ได้รับข้อมูลร้องเรียนจาก ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับกรณีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งหนึ่งว่ามีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน ดังนี้ เรื่อง ร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการ ด้วยชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ได้รับหนังสือร้องเรียนกล่าวหาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งหนึ่งว่ามีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมีพฤติการณ์ดังนี้ ๑. หยิบยื่นพระเครื่องให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ประสงค์จะย้ายแล้วบอกว่า “ถ้าประสงค์จะย้ายไปโรงเรียนนั้นจะดำเนินการให้ แต่ให้นำพระเครื่องนี้ไปเลี่ยมทองให้ด้วย เลี่ยมแบบ อูมอูม นะ” ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาแห่งประเทศไทย ขอเรียนว่าข้อมูลที่กราบเรียนนำเสนอครั้งนี้ไม่ใช่เป็นข้อมูลกล่าวอ้างลอยๆ มีพยานหลักฐานมากเพียงพอที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงได้และหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประสงค์จะทราบข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ชมรมฯยินดีที่จะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงนี้ต่อคณะผู้ตรวจสอบแต่ต้องเป็นการให้ข้อมูลต่อหน้ารัฐมนตรีว่าการระทรวงศึกษาธิการ ชมรมฯขอเรียนเพิ่มเติมว่าชมรมฯได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์การย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนหลายรายในหลายเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งนี้จะนำข้อมูลการร้องเรียนเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป อนึ่ง ชมรมฯไม่ได้ร้องเรียนไปที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพราะการร้องเรียนมีการพาดพิงและระบุชื่อผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานบางรายที่อยู่เบื้องหลังในการเรียกรับผลประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตามการพาดพิงผู้บริหารระดับสูงรายนั้นก็เป็นเพียงการกล่าวหา อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเชิงลึกจะพบว่าผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่ละรายที่มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมและได้รับการขนานนามว่าเป็นเด็กของผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายนั้น ชมรมฯขอเรียนว่าปัญหาการทุจริตในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์การย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นเป็นปัญหาที่มีมาหลายสิบปี ไม่สามารถแก้ไขได้แม้นว่าจะเปลี่ยนตัวองค์กรผู้มีอำนาจการพิจารณา การเปลี่ยนตัวผู้มีอำนาจพิจารณาก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยน “เหลือบตัวใหม่หรือกลุ่มใหม่” ให้มาสูบเลือด ปัจจัยที่ทำให้เกิดโอกาสในการทุจริตเรื่องการย้ายคือ “คะแนนการเขียนเรียงความประกอบการย้าย” ซึ่งเป็นคะแนนที่ค่าระดับคะแนนสูงมาก ไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ข้าราชการที่มีอาวุโสสูง และมีผลงาน ไม่ได้รับการพิจารณา ข้าราชการที่อาวุโสน้อย ไม่มีผลงานแต่เสียเงินจะได้ค่าระดับคะแนนนี้สูง ทางแก้ไขคือกระทรวงศึกษาธิการควรยกเลิกไม่ให้มีคะแนนการเขียนเรียงความประกอบการพิจารณาย้าย หากยกเลิกได้ปัญหาทุจริตการย้ายจะไม่เกิดขึ้น ปัญหาการวิ่งเต้นเป็นผู้แทนใน กศจ.และผู้แทนใน อ.กศจ.จังหวัดต่างๆก็จะไม่เกิดขึ้น หากยังปล่อยให้การทุจริตเรื่องการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนนี้ยังคงมีต่อไป วงจรการทุจริตก็จะหมุนเวียนไปในทุกองคาพยพของการศึกษาไทยเพราะเมื่อต้องเสียเงินในการย้ายก็จะไปทุจริตเรื่องการจัดซื้อ ผู้จำหน่ายก็จะไปวิ่งเต้นข้าราชการระดับสูงให้จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนที่ได้ผู้บริหารมาจากการซื้อตำแหน่ง หมุนเวียนไปเป็นสนิมร้ายกัดกร่อนคุณภาพการศึกษาไทยจนผุพังถึงทุกวันนี้ ผู้ที่ออกมาเปิดโปง ต่อสู้เรียกร้องให้ทราบถึงปัญหาก็จะถูกกลั่นแกล้งใส่ความจนได้รับความเสียหายหลายราย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะกรุณาตรวจสอบและสร้างผลงานชิ้นสำคัญให้วงการศึกษาไทยด้วยการยกเลิกเกณฑ์การให้คะแนนการเขียนเรียงความเพื่อประกอบการพิจารณาย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนต่อไป ขอแสดงความนับถือ |
โพสเมื่อ : 13 ก.ย. 64 อ่าน 1957 ครั้ง คำค้นหา : |