นักวิชาการจี้ปฏิรูปโครงสร้างภูมิภาคหลังเกิดปม ‘ครูแอน-ครูวัลย์’ ชวดบรรจุ



ความคืบหน้ากรณี น.ส.วนาลี ทุนมาก หรือครูแอน และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี หรือครูวัลย์ เดินทางมาร้องทุกข์ต่อนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เพื่อขอกลับเข้ารับราชการตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก หลังจากสอนได้ 5 เดือนแล้วถูกปลดจากครูผู้ช่วย เนื่องจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)ตาก ไม่อนุมัติการบรรจุแต่งตั้ง เนื่องจากบัญชีเกิน 2 ปี โดยสำนักงานก.ค.ศ.จะนำเข้าหารือที่ประชุมก.ค.ศ. ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ นพ.ธีระเกียรติ ยอมรับว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีความไม่ชอบมาพากลและซับซ้อนกว่าที่คิด โดยได้รับข้อมูลว่ามีครูเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนนายอดิศร เนาวนนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)นครราชสีมากล่าวถึงกรณีนพ.ธีระเกียรติ รัฐมนตรีว่าการศธ.ยังไม่เสนอแต่งตั้งศึกษาธิการภาค และกรณีปัญหาการบรรจุครูแอนและครูวัลย์ ว่า ทั้งสองกรณีเป็นผลพวงมาจากปัญหาการบริหารการศึกษาในภูมิภาค ตามคำสั่ง คสช.ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคที่มีการประกาศใช้อย่างเร่งด่วนเพื่อมุ่งแก้ปัญหาธรรมาภิบาลการบริหารงานบุคคลของอดีตคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาเป็นหลัก โดยการจัดตั้ง กศจ.ให้ทำหน้าที่บริหารงานบุคคล แทนอดีต อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และยังมุ่งหวังจะให้ กศจ.ทำหน้าที่บูรณาการการจัดการศึกษาในจังหวัด ให้มีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อรับผิดชอบงานธุรการของ กศจ. งานนโยบายและแผน และให้มีสำนักงานศึกษาธิการภาค เพื่อกำกับติดตามการดำเนินการตามนโยบายภาคการศึกษา 18 ภาค ซึ่งที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่า การดำเนินการตามคำสั่ง คสช.ดังกล่าวได้สร้างปัญหาต่างๆ ขึ้นมาอีกมาก อาทิ ความขัดแย้งระหว่างผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากับศึกษาธิการจังหวัด ความขัดแย้งกับ กศจ. การมีสายการบังคับบัญชาที่ยาวมากขึ้นและมีความสับสน ดังนั้นปัญหาการบรรจุครูผู้ช่วยที่จังหวัดตาก ปัญหาภาระงานที่ไม่ชัดเจนของบุคลากรในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด โดยเฉพาะศึกษานิเทศก์ที่โอนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดที่ไม่มีภาระงานที่ชัดเจน

“ปัจจุบันศึกษานิเทศก์ที่สังกัด ศธจ. ได้รับมอบหมายให้ไปนิเทศโรงเรียนเอกชน ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้เต็มที่เพราะมีวัฒนธรรม ระบบราชการ และวิธีการทำงานที่แตกต่างกันมาก ในขณะที่ศึกษาธิการภาคซึ่งเป็นตำแหน่งเทียบเท่าถึงระดับอธิบดี ก็ไม่มีความชัดเจนในเรื่องภาระงาน ภาระงานไม่คุ้มค่ากับตำแหน่ง และงบประมาณที่รัฐจ่ายให้ เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีเองก็รับทราบปัญหาเป็นอย่างดี ซึ่งเดิมกำหนดให้มีถึง 18 ภาค ตามโครงสร้างของทางทหาร และต้องการลดให้เหลือ 6 ภาค ทำให้ รัฐมนตรีว่าการศธ. ชะลอการแต่งตั้ง ศึกษาธิการภาค ซึ่งก็เห็นด้วย จึงอยากเสนอให้ใช้โอกาสนี้ทบทวนคำสั่ง คสช. ที่ 19/2560 โดยแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคขึ้นมา และให้เป็นคนละชุดจากคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ทำหน้าที่ออกแบบโครงสร้างการบริหารการศึกษาในภูมิภาคเพื่อรองรับการให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคลตามที่คณะกรรมการอิสระฯ กำลังเสนออยู่ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ จะทำให้เกิดความสับสนและสร้างความเสียหายและปัญหาตามมาอีกหลายด้าน”นายอดิศร กล่าว


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจากมติชนออนไลน์ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 - 19:07 น.


โพสเมื่อ : 15 พ.ย. 60   อ่าน 1407 ครั้ง      คำค้นหา :