![]() |
ฉีดยาแรงอาชีวะเพิ่มทักษะภาษา บี้รัฐมีนโยบายการศึกษาต่อเนื่อง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมนโยบายและแผนงานขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาไทย โครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ซึ่งที่ประชุมแสดงความห่วงใยถึงเรื่องการพัฒนาคุณภาพครูนั้น เรื่องนี้ตนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ตั้งแต่เข้ารับหน้าที่ที่กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งปัญหาขวัญกำลังใจครู ทักษะการสอน หลักสูตร การพัฒนาครู การเข้าสู่ตำแหน่งวิทยฐานะ ซึ่งตนเห็นว่าทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ทักษะภาษาอังกฤษ โดยตนได้หารือกับ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ว่า ศธ.ต้องการครูที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษที่สูงกว่าปัจจุบัน ซึ่งตนมั่นใจว่าทำได้ในช่วงการเรียน 4 ปีในมหาวิทยาลัย หากบัณฑิตครูไม่มีทักษะภาษาอังกฤษอย่างที่เราต้องการ ก็คงไม่สามารถรับเข้าสู่ระบบครูของ ศธ.ได้ เพราะภาษาอังกฤษจะเป็นทำให้เราค้นคว้าข้อมูลต่างๆในระบบอินเตอร์เน็ตจากทั่วโลกได้ ขณะที่ครูในระบบปัจจุบัน ตนก็ขอให้เวลา 3 ปี ให้ครูได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้สามารถสื่อสารได้ในระดับหนึ่ง เพื่อจะค้นคว้าหาความรู้และถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กได้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสู่วิทยฐานะของครู ในส่วนของระดับอาชีวศึกษา ตนต้องฉีดยาแรงให้อาชีวะ เพราะเราจำเป็นต้องเร่งผลิตกำลังคนป้อนอีอีซี โดยต้องมีทักษะภาษาอังกฤษ เพราะต้องทำงานกับคนต่างชาติ โดยให้เรียนวิชาเลือกเป็นภาษาอังกฤษทั้ง 10 วิชา ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กเลือกเรียนแค่ 1 วิชาเท่านั้นอย่างในปัจจุบัน ส่วนระดับการศึกษาพื้นฐานก็จะส่งเสริมการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก เมื่อพื้นฐานได้ผลดีก็จะลดปัญหาเมื่อเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ตนยังขอให้ อว.ผลิตครูที่มีทักษะด้านดิจิทัล เน้นการสอนด้านปฏิบัติมากกว่าการท่องจำ ศ.คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อดีตนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในคณะกรรมการจากภาคประชาสังคม ในโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED กล่าวว่า รมว.ศธ.ยืนยันที่จะสานต่อและแก้ไขปัญหาต่างๆ ของโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ก็ทำให้พวกเรามั่นใจขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของ ศธ. คือบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ.โดยเฉพาะครูและครูใหญ่ของ ร.ร.ต้องมุ่งเน้นการสร้างนักเรียนให้เป็นคนที่สมบูรณ์อยู่ได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สำหรับปัญหาของโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาคือ ความต่อเนื่องของนโยบายการศึกษาของรัฐบาล เพราะ 3 ปี เราหารือทำความเข้าใจกับ รมว.ศธ.หลายคน จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาเป็นอันดับหนึ่งและให้มีความต่อเนื่อง ทั้งนี้ การทำงานใน ศธ.เป็นเรื่องยาก จึงอยากให้กำลังใจทีมงานและ รมว.ศธ.ในการพัฒนาการศึกษาชาติ. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 17 ต.ค. 62 อ่าน 1352 ครั้ง คำค้นหา : |