สภาการศึกษาเห็นชอบฉากทัศน์การศึกษาไทยปี 70 มุ่งมั่นขับเคลื่อนสู่การศึกษาที่พึงประสงค์



เมื่อวันที่ 1 พ.ย. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาการศึกษา เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบฉากทัศน์ทิศทางและแนวโน้มการพัฒนาการศึกษาไทย พ.ศ. 2570 ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษานำเสนอ ทั้งนี้ จากสถานการณ์ยุค BANI World โลกมีความเปราะบาง ผันผวน ซับซ้อน และเข้าใจยาก การวางแผนทางการศึกษาในรูปแบบเดิมที่มองภาพอนาคตทางการศึกษาเพียงรูปแบบเดียว ทำให้เกิดความเสี่ยง หากมีสถานการณ์ วิกฤตการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ระบบการศึกษาอาจจะหยุดชะงักและได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเหตุการณ์โควิด – 19 เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด การวางแผนทางการศึกษาโดยใช้วิธีคาดการณ์อนาคตทางการศึกษา (Foresight) เพื่อให้ได้ฉากทัศน์การศึกษาหลากรูปแบบ เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะทำให้การกำหนดนโยบายทางการศึกษาสามารถออกแบบ วางแนวทาง และรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อการจัดการศึกษาทั้งในปัจจุบันและอนาคตมีทั้งปัจจัยภายในระบบการศึกษาที่ครอบคลุมผู้บริหาร ครู ผู้สอน และหลักสูตรการศึกษา และปัจจัยภายนอกระบบการศึกษาที่ประกอบด้วยนโยบายและแผนทางการศึกษา งบประมาณ และเทคโนโลยี เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชื่อมโยงปัจจัยภายในและภายนอกจะทำให้เกิดเข็มทิศฉากทัศน์การศึกษาไทยในอนาคต.
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ซึ่งความสัมพันธ์เชื่อมโยงจะทำให้เกิดภาพอนาคตทางการศึกษาทั้งฉากทัศน์ที่พึงประสงค์ ฉากทัศน์ที่ไม่พึงประสงค์ และฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ 4 ฉากทัศน์ คือ 1. ฉากทัศน์ที่พึงประสงค์ ที่เกิดจากปัจจัยภายในและภายนอกเป็นบวก ผลลัพธ์นี้จะเกิดกับผู้เรียน คือ เรียนดี มีความสุข และจบแล้วมีงานทำ สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล 2. ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ กรณีที่ 1 เป็นฉากทัศน์ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยภายนอกเป็นบวก และภายในเป็นลบ ภาพที่อาจจะเกิด คือ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลดลง แต่จากการที่ครูและผู้บริหารไม่ได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ และหลักสูตรไม่ยืดหยุ่น ไม่สอดคล้องกับสมรรถนะ ทำให้มีแนวโน้ม ที่ผู้เรียนอาจมีคุณภาพและทักษะน้อยลงไม่สอดรับกับสถานการณ์ เป็นฉากทัศน์ที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้น 3. ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้กรณีที่ 2 เป็นฉากทัศน์ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยภายในเป็นบวก และภายนอกเป็นลบ ซึ่งสภาพที่อาจเกิดขึ้น คือ เกิดความเหลื่อมล้ำในเชิงพื้นที่ พื้นที่มีศักยภาพจะพัฒนาได้เร็วและมีนวัตกรรมเกิดขึ้น แต่พื้นที่ที่ไม่มีศักยภาพผู้เรียนก็อาจไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ จึงเป็นอีกหนึ่งฉากทัศน์ที่ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน และ4. ฉากทัศน์ที่ไม่พึงประสงค์ เป็นฉากทัศน์ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกเป็นลบ สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น คือ ทั้งสถานศึกษา หลักสูตร การเรียน ไม่ตอบโจทย์ ไม่เป็นสถานที่ปลอดภัย จบแล้วไม่มีงานทำ เป็นฉากทัศน์ที่ทุกคนต้องป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น

“อย่างไรก็ตามฉากทัศน์ทั้ง 4 ด้าน เป็นการคาดการณ์อนาคต ซึ่งเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การสร้างความตระหนักให้ทั้งระดับนโยบาย ผู้ปฏิบัติ และภาคส่วนต่าง ๆ เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตทุกรูปแบบ วางแผนการทำงานไปสู่ฉากทัศน์ที่ทุกคนอยากเห็น และป้องกันไม่ให้ภาพการศึกษาที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น และพัฒนาการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมรับกับสถานการณ์ในอนาคตอย่างรู้เท่าทัน” รมว.ศธ.กล่าว...

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/2858135/

โพสเมื่อ : 01 พ.ย. 66   อ่าน 612 ครั้ง      คำค้นหา :