เด็ก /ครู และอินเตอร์เน็ต

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]


ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ของโลก ที่ริเริ่มการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมาแล้วถึง 26 ปี แต่จะพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหนและอนาคตเราจะก้าวต่อไปอย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่จะต้องจับตามองกันต่อไป ถึงคำตอบในอนาคตที่ไม่นานเกินรอ



26 ปีที่ผ่านมา อินเตอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงระบบสื่อสารของคนทั่วโลกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์ราคาแพง ให้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างดี และกลายเป็นการหลอมรวมของสื่อ อุปกรณ์ที่มีราคาถูก กลายเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ทรงพลัง จนกล่าวได้ว่าอินเตอร์เน็ตกลายเป็นของทุกคน



หากจะว่าไปแล้ว แม้อินเตอร์เน็ตจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาภาคเศรษฐกิจ ภาคสังคม และวิถีชีวิตของภาคคนในประเทศ แต่ในภาคการศึกษายังทรงความสำคัญมิยิ่งหย่อนกว่ากันหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ



จะเห็นว่าก่อนมีการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษแรกหลายปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯยุคหนึ่ง ประกาศเป็นนโยบายทุกโรงเรียนต้องมีคอมพิวเตอร์ แต่โชคร้ายตรงที่ว่าไปจัดสรรให้กับโรงเรียนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เลยกลายเป็นคำตอบ แบบไม่ต้องมีคำถามด้วยซ้ำ



อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อการ ศึกษานั้นมีมาตั้งแต่ปี 2546 กระทรวงไอซีทีร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ จัดอบรมครูแกนนำกว่า 5,000 คน จากโรงเรียนทั่วประเทศ 



อีกไม่กี่วันจะก้าวขึ้นสู่ปี 2558 ผ่านมาถึงวันนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยถึงผลจากการประเมินทักษะไอซีทีของเยาวชนที่ไปร่วมแข่งขันในระดับ นานาชาติล่าสุดว่า คะแนนไทยได้แค่ 373 คะแนน รองโหล่สุดในกลุ่ม



สาเหตุที่เด็กไทยด้อยในเรื่องนี้เพราะหลักสูตรของไทยเอาวิชาคอมพิวเตอร์ไป รวมอยู่ในกลุ่มสาระการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี แถมยังมีปัญหาขาดแคลนคอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่มีโอกาสฝึกฝนทักษะได้ดีพอ



ตอกย้ำจากสสวท.อีกว่า ครูเองยังไม่ได้สอนให้เด็กประยุกต์ใช้ความรู้ให้เข้ากับชีวิตจริง รวมถึงยังไม่มีการนำสื่อไอซีทีไปใช้ในการเรียนการสอนวิชาอื่นๆ นอกจากวิชาคอมพิวเตอร์ และยังพบว่าครูไทยร้อยละ 8 ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์ ขณะที่ค่าเฉลี่ยของนานาชาติอยู่ที่ร้อยละ 5 



อีกทั้งข้อจำกัดในการพัฒนาด้านอินเตอร์เน็ตยังเป็นอุปสรรคทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและราคายังสูง

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557