คืนความสุขให้ลูก สพฐ.




      

คืนความสุขให้ลูก สพฐ.


          เด็กไม่ใช่ผ้าขาวที่ผู้ใหญ่จะแต้มสีอะไรก็ได้ให้กับเขา แต่หากเราทุกคน สังคมควรวางบรรทัดฐานที่ดีที่เหมาะที่ควร เพื่อที่พวกเขาจะได้เลือกแต่งแต้มสีได้เอง เช่นเดียวกับ น้องสา-ด.ญ.วันวิสาห์ พรหมชาติ ศึกษาที่โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน หากแต่วันนี้ ปัญหาอุปสรรคต่างเดินเข้ามา ที่จะส่งผลต่อสภาพจิตใจ และส่งผลต่อการเรียน อันเป็นเส้นทางและรากฐานที่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จในอนาคต
          หากผ้าขาวผืนนี้ รอคอยการเยียวยา การชี้ทาง ตลอดจนการช่วยเหลือ หยิบยื่นจากสังคม ภาครัฐที่หันกลับมาดูแลบ้าง กับฐานะทางที่ค่อนข้างยากจน มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ซ้ำร้ายแม่ยังป่วยเป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม ไม่มีใครคอยดูแล ปัญหาต่างๆ เหล่านี้หากบอกว่าเป็นปัญหาส่วนบุคคล สังคมทำการนิ่งเฉย ก็อาจจะเป็นเสมือนมะเร็งร้ายที่ก่อตัวในสังคม ทำให้เกิดผลผลิตทางสังคมที่ไม่ได้คุณภาพ และอาจเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีศักยภาพ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศได้ในอนาคต
          แต่วันนี้ จุดเล็กๆ ในพื้นที่ในสังคมไทย ยังได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กับโครงการดีๆ ในโครงการ คืนความสุข สู่ลูก สพฐ. ที่เดินหน้าคอยสอดส่องดูแลนักเรียนในสังกัดมาแล้วกว่า 10 ปี และในปีนี้ถือเป็นการเดินหน้าปูพรมครบถ้วนทั่วประเทศไทย ซึ่งกิจกรรมการเยี่ยมบ้านนักเรียนในสังกัด สพฐ. ไม่ใช่แต่เป็นการเยี่ยมบ้านเท่านั้น หากแต่ สพฐ. ยังช่วยเหลือนำปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียนมาร่วมกันแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือทางบ้าน การหาอาชีพเสริม ฝึกอาชีพ มอบทุนการศึกษา ซ่อมแซมบ้านหากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งแล้วแต่กรณีที่เกิดขึ้น เราจะคอยดูแลใกล้ชิด เสมือนเป็นลูกของเราเอง ดังนั้น ในปีนี้จึงเกิดกิจกรรม คืนความสุข สู่ลูก สพฐ. ขึ้น
          โดยในปีนี้ ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการ กพฐ. ได้ทำการลงพื้นที่เยี่ยมนักเรียนด้วยตัวเอง อย่างเช่น ด.ญ.วันวิสาห์ พรหมชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่าง ที่ทาง ดร.กมล ลงไปรับทราบถึงปัญหา และนำกลับมาแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดย สพฐ. ก็เดินหน้าเยี่ยมนักเรียนไปพร้อมๆ กันทั่วประเทศ และรับทราบถึงปัญหาในพื้นที่ต่างๆ โดยกลุ่มนักเรียนในสังกัด สพฐ. ปัจจุบันมีอยู่กว่า 600,000 คน ดังนั้น เราจึงต้องให้คณะครูในพื้นที่ต่างๆ ช่วยกันดูแล และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลูกหลานของเราจะได้เป็นผ้าขาว ที่เติบโตอย่างมีศักยภาพในสังคมไทย
          ดร.กมล กล่าวว่า เยาวชนในปัจจุบัน อันได้แก่กลุ่มนักเรียนทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย คือ อนาคตของประเทศ การดูแลด้านคุณภาพชีวิตทั้งในโรงเรียน และภายในสภาพแวดล้อมโดยรวมก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นการรู้สภาพครอบครัวในด้านคุณภาพชีวิตของกลุ่มนักเรียน การเยี่ยมบ้านก็ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ทาง สพฐ. ได้เห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญมาโดยตลอด การลงพื้นที่จริง เห็นถึงสภาพแวดล้อม ทราบถึงปัญหาของนักเรียน เราจะได้ให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ประการสำคัญ สพฐ. ยังนำกลับไปวางนโยบาย แผนยุทธศาสตร์ในอนาคตได้
          วันนี้โครงการเยี่ยมบ้านและครอบครัวนักเรียนประจำปี 2557 สพฐ. ต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะคืนพื้นที่แห่งความสุข สร้างรอยยิ้มกลับมาสู่ลูกๆ ของเรา ดังที่เราตั้งมั่นที่จะ คืนความสุข สู่ลูก สพฐ. ซึ่งเราในฐานะหน่วยงานระดับประเทศที่ต้องให้ความช่วยเหลือคุ้มครองนักเรียน อันเป็นเสมือนบุตรหลาน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ที่มีบ้านหลังใหญ่ที่ชื่อว่า ประเทศไทย การลงพื้นที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ของ สพฐ. ได้เห็นถึงสภาพจริง ความต้องการที่แท้จริง ปัญหาที่ต้องการได้รับการแก้ไข ตลอดจนการคุ้มครองในตัวของลูกๆ ของเราได้ กอปรกับจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งในครอบครัว ในชุมชน อันเป็นเกราะป้องกันในการเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านยาเสพติดทั้งในสถานศึกษา ในชุมชน และในครอบครัวอีกด้วย ดร.กมล กล่าว
          กิจกรรมในครั้งนี้ยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่ออนาคตของบุตรหลานของเรา ที่จะเติบโตอย่างมีศักยภาพ เป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ และพร้อมที่จะเลือก แต่งแต้มสีสัน เติบโตในเส้นทางที่พวกเค้าเลือกเอง

         

 ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง


โพสเมื่อ : 28 ส.ค. 57   อ่าน 1358 ครั้ง      คำค้นหา :