ชูการศึกษาเด็กพิเศษเน้นเรียนร่วม

ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการจัดการศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เพราะในการปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้ต้องการดูแลและให้ความสำคัญกับเด็กทุกกลุ่ม ทั้งที่เป็นเด็กพิการ เด็กที่มีความสามารถพิเศษ และเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษซึ่งหมายรวมไปถึงเด็กด้อยโอกาส เด็กที่มีความเปราะบางทางสังคม ซึ่งต้องหาวิธีการบริหารจัดการที่แตกต่างอย่างหลากหลาย โดยจะจัดทำแผนปฏิรูปการศึกษาเฉพาะกลุ่มเด็กเหล่านี้

ด้าน รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ รองประธาน กอปศ. กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับการดูแลเด็กพิการ มี พ.ร.บ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ.2551 แต่คนพิการก็ยังไม่ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและขาดโอกาสการเข้าถึง นอกจากนี้ยังมีเด็กพิการที่ความพิการไม่เด่นชัด อาทิ เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (แอลดี) และเด็กสมาธิสั้น เด็กเหล่านี้ไม่นับอยู่ในความพิการจนกว่าจะมีภาวะบกพร่องทางอารมณ์และ พฤติกรรม ซึ่งประเทศไทยมีเด็กแอลดีในระบบกว่า 3 แสนคน ขณะที่เด็กสมาธิสั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และโรงเรียนก็มักแก้ปัญหาด้วยการให้เด็กออกจนทำให้หลุดระบบ ดังนั้น จะกำหนดเป็นมาตราหนึ่งในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ที่กำลังยกร่างเพื่อดูแลเด็กพิการ เด็กที่มีความสามารถพิเศษ และเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ รวมทั้งเพิ่มประเภทเด็กพิการจากเดิม 9 ประเภทเป็น 10 ประเภท โดยเพิ่มเด็กหูหนวกและตาบอดจากเดิมที่อยู่ในกลุ่มพิการซ้ำซ้อน เพื่อให้จัดการศึกษาได้ตรงประเภท นอกจากนี้ จะต้องสร้างระบบการคัดกรองที่มีคุณภาพ มีเครื่องมือและบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาแบบเรียนร่วม และทุกเขตพื้นที่การศึกษาต้องมีห้องเด็กพิเศษในโรงเรียนก่อนที่จะเข้าสู่ระบบเรียนร่วม.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ