พบจัดซื้อครุภัณฑ์ ม.ต้นเขตอีสานทุจริตอื้อ

แฉล็อกสเปกจัดงบฯ ให้ ร.ร.ที่ไม่ได้ขอ ผลสอบคืบ 90% ชงเสมา 1 ฟันวินัย

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาทุจริตภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น งบประมาณ 6 แสนบาทต่อโรงเรียน วงเงิน 279 ล้านบาท ของเขตพื้นที่การศึกษาในภาคอีสาน ได้รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่ามีความคืบหน้า 90% อีกทั้งยังได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมี 4 ประเด็นตรวจสอบตามข้อสั่งการของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. คือ 1.การจัดสรรงบค่าครุภัณฑ์เป็นไปตามความต้องการของโรงเรียนหรือไม่ 2.การจัดสรรงบประมาณเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมหรือไม่ 3.มีการล็อกสเปกรายการครุภัณฑ์ตามที่มีผู้ร้องเรียนหรือไม่ และ 4.มีความบกพร่องในการบริหารงบประมาณหรือไม่

ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ทั้ง 4 ประเด็นพบเข้าข่ายมีมูลความไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะข้อมูลงบฯการจัดสรรค่าครุภัณฑ์ฝึกทักษะปี 2561 ของ สพฐ.นั้น สพฐ.ได้สำรวจผ่านแอปพลิเคชันว่ามีโรงเรียนใดบ้างที่เปิดสอนสายอาชีพ มีนักเรียนกี่คน เพื่อให้ตรงกับความต้องการ โดยมีโรงเรียนได้รายงานข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวยืนยันความต้องการทั้งหมดทั่วประเทศ 717 โรง แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า สพฐ.จัดสรรงบฯดังกล่าวไปให้ 458 โรง ที่ไม่ได้เกิด

จากการร้องขอแม้แต่โรงเรียนเดียว จึงเกิดคำถามว่าเหตุใด สพฐ.ถึงไม่นำฐานข้อมูลจากแอปพลิเคชันนี้มาใช้เป็นฐานในการจัดสรรงบฯ ขณะเดียวกันคณะกรรมการยังตรวจพบมีการล็อกสเปกเกิดขึ้น เพราะเขตพื้นที่ฯได้เรียกประชุมจัดทำแพ็กเกจครุภัณฑ์ให้โรงเรียนไว้เสร็จสรรพ ทำให้โรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรได้ครุภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการ หลายแห่งได้รับมากกว่าสองรายการ

“คณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตระบบการจัดสรรงบฯของ สพฐ.พบว่าไม่มีฐานข้อมูลการจัดสรรและทำล่าช้า จึงไม่แปลกใจว่าทำไมงบฯสพฐ.ถึงต้องตกไปจำนวนมาก และเวลาการแจ้งบัญชีจัดสรรงบกับการทำคู่มือการบันทึกข้อมูลรหัสงบประมาณและแหล่งของเงินในระบบ e-GP ก็ไม่ได้ไปพร้อมกัน เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถตอบได้อ้างว่านายสั่ง ในที่สุดก็จัดสรรงบฯจริงในวันที่ 26 ธ.ค.60 จึงไม่รู้ว่าเอาข้อมูลไหนมาจัดสรร” ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าวและว่า คณะกรรมการจะสรุปข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอ รมว.ศธ.พิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ