เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560 เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการได้เผยแพร่ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 447/2560 เรื่อง ผลการประชุม ก.ค.ศ. 13/2560 โดยมีเนื้อหา ดังนี้ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 13/2560 เมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2560 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้
● อนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการเปลี่ยนตำแหน่ง การย้าย และการโอน ช้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง "บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)" โดยให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้ง เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเป็นการกระจายอำนาจให้กับ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง เป็นองค์คณะในหน่วยงานและในพื้นที่ ให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล เหมาะสมและตรงความต้องการของหน่วยงานในแต่ละจังหวัด โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 1. ผู้ขอเปลี่ยนตำแหน่ง ย้าย หรือโอน ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ - มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ตามมาตรฐานตำแหน่ง ที่ ก.ค.ศ. กำหนด 2. หน่วยงานการศึกษาที่จะรับโอน และรับย้าย ต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้หรือบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ตำแหน่งที่รับโอนที่ขึ้นบัญชีของหน่วยงานการศึกษา หรือ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง หรือบัญชีของส่วนราชการนั้น แล้วแต่กรณี ซึ่งรอการบรรจุและแต่งตั้ง 3. หน่วยงานการศึกษาที่ได้รับการแต่งตั้ง ต้องมีจำนวนบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ไม่เกินกรอบอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนดทั้งนี้ ตำแหน่งที่จะใช้รับการแต่งตั้ง ต้องเป็นตำแหน่งว่างที่มีอัตราเงินเดือน ที่มิใช่เป็นตำแหน่งที่รอการเลิกหรือยุบ หรือตำแหน่งที่มีเงื่อนไขตามที่ คปร.กำหนด หรือตำแหน่งที่สงวนไว้ 4. การเปลี่ยนตำแหน่ง การรับโอน และการรับย้ายต่างกลุ่มตำแหน่ง ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการขึ้นไป จะต้องพิจารณาจากการประเมินบุคคลและผลงาน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด 5. การให้ได้รับเงินเดือน ให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิมกรณีที่เงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของระดับที่จะแต่งตั้ง ให้ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด
● อนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการโอน "พนักงานส่วนท้องถิ่นและข้าราชการอื่น" มาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง "บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)"โดยมีหลักการที่สำคัญ ดังนี้ 1. หน่วยงานการศึกษาที่รับโอนต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ หรือบัญชีผู้ได้รับคัดเลือก ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ตำแหน่งที่รับโอนที่ขึ้นบัญชีของหน่วยงานการศึกษา หรือ กศจ. หรือ อ.ก.ค.ศ. ซึ่ง ก.ค.ศ. ตั้ง หรือบัญชีของส่วนราชการนั้น ซึ่งรอการบรรจุและแต่งตั้ง ทั้งนี้การรับโอนให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการขึ้นไป ผู้ขอโอนจะต้องผ่านการประเมินบุคคลและหรือผลงาน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด และ ก.ค.ศ. ได้กำหนดมาตรฐานการเปรียบเทียบตำแหน่งระหว่างพนักงานส่วนท้องถิ่น และข้าราชการอื่น กับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ไว้เรียบร้อยแล้ว
● เห็นชอบให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.6/ว3 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2560 มาใช้เป็นหลักเกณฑ์และวิธีการในการคัดเลือกบุคคล โดยผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐานตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด โดยดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งมาแล้ว ดังต่อไปนี้ - ประเภทอำนวยการ ระดับสูง -ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น และตำแหน่งที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษรวมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
|
โพสเมื่อ : 29 ส.ค. 60 อ่าน 1434 ครั้ง คำค้นหา : |