กก.อิสระเปิดทางแยกกระทรวงอุดมฯ ชูโรงเรียนนิติบุคคลรุกกระจายอำนาจ



ย้ำไม่เน้นปรับโครงสร้างใหญ่

นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระฯว่า ที่ประชุมได้รับทราบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579 และรายงานการวิเคราะห์ปัญหาการศึกษาไทยที่มีความวิกฤติเรื่องความเหลื่อมล้ำ คุณภาพ การบริหารจัดการ ทั้งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ รวมถึงการแปลความรัฐธรรมนูญว่าจะต้องดำเนินการอะไรต่อไป ดังนั้น ข้อมูลที่จะพิจารณาเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลจึงไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ พร้อมกันนี้ได้เปิดเฟซบุ๊กและไลน์เพื่อรับฟังความเห็นและเสียงประชาพิจารณ์ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เลือกรองประธานคณะกรรมการอิสระฯ 2 ราย ได้แก่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รองประธานคนที่ 1 นางดารณี อุทัยรัตนกิจ รองประธานคนที่ 2 และตั้งโฆษก คือ นางภัทรียา สุมะโน และ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ

ประธานคณะกรรมการอิสระฯกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้เลือกประธานคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการตามภารกิจ 5 คณะ ดังนี้ คณะอนุกรรมการเด็กเล็ก มี รศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ เป็นประธาน คณะอนุกรรมการกองทุน มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน คณะอนุกรรมการพัฒนาครู มีนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร เป็นประธาน คณะอนุกรรมการการจัดการเรียนการสอน มีนางยุวดี นาคะผดุงรัตน์ เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการระบบโครงสร้าง มีนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร เป็นประธาน รวมทั้งตั้งคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นและสื่อสารสังคม มีนายตวง อันทะไชย เป็นประธาน ตั้งเป้าจัดทำข้อเสนอแนะเสนอรัฐบาลภายใน 1 ปี ระหว่างนี้หากมีประเด็นเร่งด่วนจำเป็นต้องออกกฎหมายก็จะนำเสนอต่อรัฐบาล.

“ภารกิจสำคัญของคณะกรรมการอิสระฯคือต้องปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จ สิ่งที่กรรมการเห็นตรงกันคือ จะไม่ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างใหญ่ แต่เน้นโครงสร้างระดับโรงเรียน โดยนำไปสู่การกระจายอำนาจให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคลโดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละแห่ง ส่วนกลางปรับบทบาทเป็นผู้กำกับติดตามให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน”

นพ.จรัสกล่าวและว่า ส่วนตัวเห็นว่าประเทศไทยต้องมีสมองของประเทศ โดยเฉพาะสภาการศึกษาต้องทำหน้าที่เป็นเสนาธิการด้านการศึกษา ส่วนการแยกกระทรวงการอุดมศึกษานั้นได้ดำเนินการมาก่อนมีคณะกรรมการอิสระฯ คงต้องให้เดินหน้าต่อไป.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ


โพสเมื่อ : 21 มิ.ย. 60   อ่าน 1245 ครั้ง      คำค้นหา :