![]() |
กระทรวงการอุดมศึกษาฯทุ่ม 8,600 ล้านบาท แก้วิกฤติบัณฑิตปี 62/63 ตกงานกว่า 5 แสนคน “สุวิทย์ เมษินทรีย์” ผุดโครงการ “ยุวชนสร้างชาติ” สร้างงาน สร้างอาชีพ รับบัณฑิตตกงาน รุ่นแรก 50,000 คน ไปเป็น “บัณฑิตอาสา” ทำงานร่วมกับชาวบ้าน 1 ปี ให้เงินเดือน 15,000 บาท มั่นใจช่วยลดบัณฑิตตกงานได้ 10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังรับนักศึกษาชั้นปี 3-4 ไปเป็นอาสาประชารัฐ ทำงานกับชาวบ้าน 1 ภาคการศึกษาสามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ แถมให้ค่าเบี้ยเลี้ยงคนละ 5 พันบาท เริ่ม ธ.ค.นี้ นำร่องกาฬสินธุ์ 1 ใน 3 จังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศ จากกรณีบัณฑิตจบใหม่บางสาขาอาชีพส่อหางานทำได้ยากขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ย. หลังได้รับการเปิดเผยจาก นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถึงแนวทางแก้ปัญหาว่ากระทรวงการอุดมศึกษาฯ จะจัดทำโครงการยุวชนสร้างชาติ เพื่อลดหรือชะลออัตราการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในสถานการณ์ทาง เศรษฐกิจที่รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่าง จีนกับสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศและการมีงานทำของประชาชน โดยปัจจุบันจากการสำรวจพบว่ามีบัณฑิตที่ตกงานมากถึง 370,000 คน และในเดือน มี.ค.2563 หรือในอีก 4 เดือนข้างหน้า จะมีบัณฑิตกำลังจะจบจากมหาวิทยาลัยอีก 3 แสนคน ซึ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะตกงาน ทำให้มีบัณฑิตกำลังจะตกงานรวมกว่า 5 แสนคน ดังนั้น รัฐบาลจึงมอบให้กระทรวงการอุดมฯ จัดทำโครงการยุวชนชาติสร้างชาติ ซึ่งจะมี 3 โครงการย่อย ประกอบด้วย บัณฑิตอาสา อาสาประชารัฐและกองทุนยุววิสาหกิจเริ่มต้น เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าว โดยจะใช้งบประมาณ 8,600 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือน ธ.ค.นี้ นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า โครงการยุวชนสร้างชาติ มีเป้าหมายคือเยาวชนวัยหนุ่มสาวในรั้วมหาวิทยาลัยและบัณฑิตจบใหม่ โดยวิธีการแก้ปัญหาจะผ่าน 3 โครงการย่อย คือ โครงการบัณฑิตอาสา เพื่อช่วยบัณฑิต ตกงาน ใช้งบประมาณจำนวน 8 พันล้านบาท รับจำนวนกว่า 50,000 คน เพื่อให้ลงไปพัฒนาพื้นที่ในชุมชนร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ โดยจะรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปี ระยะเวลา 12 เดือน โดยจะได้เงินเดือน 10,000-15,000 บาท สามารถสมัครได้ที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทั้งนี้ โครงการบัณฑิตอาสา จะมีหลักการคล้ายๆกับโครงการ บัณฑิตอาสาของอาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ส่งนักศึกษาที่จบมหาวิทยาลัยไปทำงานพัฒนาชนบท โครงการที่สองคือโครงการอาสาประชารัฐ งบประมาณ 500 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษาปี 3-4 จำนวน 10,000 คน ใช้ระยะเวลาทำงาน 4-5 เดือนหรือ 1 ภาคเรียน ให้ไปทำงานร่วมกับชาวบ้านและสามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ทั้งหมด โดยจะมีค่าเบี้ยเลี้ยงให้คนละ 5 พันบาท และสุดท้ายโครงการกองทุนยุววิสาหกิจเริ่มต้น งบประมาณ 100 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายจะเป็นนิสิตนักศึกษาร่วมกับบุคลากรมหาวิทยาลัย ใช้ระยะเวลา 3-5 ปี เพื่อให้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทดลองจัดตั้งสตาร์ตอัพ พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ให้เกิดเป็นนวัตกรรมทางธุรกิจ นวัตกรรมสังคมและนวัตกรรมสร้างสรรค์ รมว.การอุดมศึกษาฯ กล่าวอีกว่า โครงการยุวชนสร้างชาติ จะช่วยลดจำนวนบัณฑิตตกงานได้ประมาณร้อยละ 10 และจะเริ่มโครงการอาสาประชารัฐก่อนในเดือน ธ.ค.นี้ นำร่องในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศ โดยให้นักศึกษา 500 คน จัดกลุ่มทำงานเป็นทีมทีมละ 8-10 คน มาจากการรวมตัวของหลากหลายคณะ นำความรู้ที่เรียนมาไปทำงานร่วมกับชาวบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนในมิติต่างๆ โดยเฉพาะด้านความยาก จน ความเหลื่อมลํ้า และปัญหาคุณภาพชีวิต โดยนักศึกษาเหล่านี้ ต้องพักอาศัยในชุมชนที่ทำโครงการเป็นเวลา 4-5 เดือน คิดเป็น 1 ภาคเรียน เรียนรู้ร่วมกับชุมชน มีการทำงานกับชุมชนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามหลักวิชาการ มีอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีม และมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวง อว. รวมถึงหน่วยงานอื่นในพื้นที่ ซึ่งนักศึกษาสามารถเทียบโอนหน่วยกิตการลงพื้นที่ได้เทียบเท่ากับที่เข้าเรียนในชั้นเรียนทั้งหมด นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า จากนั้นจะเริ่มโครงการบัณฑิตอาสาในทั่วประเทศ ซึ่งจะต้องไปขึ้นทะเบียนกับสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่และทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คน แต่ละกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ชุมชน 1 ชุมชนและต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสำคัญคือสมาชิกในกลุ่มทุกคนจะต้องพำนักอาศัยในชุมชนนั้นเป็นระยะเวลา 1 ปีเพื่อเรียนรู้ร่วมกับชาวบ้านและทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งมั่นใจว่าโครงการยุวชนสร้างชาติ จะช่วยลดอัตราการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบ ที่สำคัญจะก่อให้เกิดอาชีพใหม่ด้วย ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 15 พ.ย. 62 อ่าน 1267 ครั้ง คำค้นหา : |