พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (สกมช.) เปิดเผยว่า สกมช. ได้ร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ในการสร้างความปลอดภัย ในการใช้งานโทรศัพท์มือถือของประชาชนให้มากขึ้น หลังจากปัจจุบันปัญหามิจฉาชีพปลอมเอสเอ็มเอส และไลน์ เป็นหน่วยงานรัฐ อาทิ เช่น ดีเอสไอ กรมสรรพากร สถาบันการเงินต่างๆ หลอกให้หลงเชื่อคลิกลิงก์ เว็บปลอมที่แนบ มาจนถูกติดมัลแวร์และถูกติดตั้งแอพพลิเคชั่นดูดเงินจากบัญชีธนาคารทางออนไลน์ด้วยการควบคุมเครื่องระยะไกล ADVERTISEMENT “สกมช. จะประสานกับเอไอเอสในการส่งข้อมูลเบอร์มิจฉาชีพให้เอไอเอส หากพบว่าเอสเอ็มเอสนั้น แนบลิงก์ปลอมมาด้วย เมื่อลูกค้าเผลอกดลิงก์เข้าไป ระบบอินเทอร์เน็ตจะเปลี่ยนเส้นทางโยงเข้าไปที่หน้า กูเกิล เสิร์ช แทนที่จะไปหน้าลิงก์เว็บ ของมิจฉาชีพ เพื่อไม่ให้ถูกมัลแวร์และติดตั้งแอพดูดเงิน ซึ่งที่ผ่านมา สกมช. ดำเนินการปิดกั้นลิงก์เว็บมิจฉาชีพลักษณะนี้ไปแล้ว 70 เว็บ แต่ก็มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนการแก้ปัญหามิจฉาชีพปลอมไลน์ ภายในสัปดาห์หน้า สกมช. จะหารือ แก้ปัญหาเรื่องนี้กับไลน์ ประเทศไทย กรณีเป็นบัญชีทางการ ต้องมีสัญลักษณ์เครื่องหมายบางอย่างเช่น ดาว แถบสี ฯลฯ ที่บ่งบอกคือ ของจริง และขอย้ำว่าภาครัฐ ไม่มีการส่งเอสเอ็มเอส หรือ ติดต่อประชาชนผ่านทางไลน์เด็ดขาด การดำเนินการแบบนี้ จะช่วยให้ระงับการถูกหลอกได้เร็วขึ้นและขอให้มั่นใจว่าข้อมูลเบอร์มิจฉาชีพ ที่ สกมช. ได้มา ถูกต้องแน่นอน” พล.อ.ต.อมร กล่าวต่อว่า ภัยไซเบอร์ในปีนี้ นอกจากความเสี่ยงบุคคลทั่วไปแล้ว ในส่วนขององค์กรต่างๆ ก็พบความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะองค์กรที่ไม่มีการอัพเกรดเซิร์ฟเวอร์ จนกลายเป็นช่องโหว่ โดน แรนซัมแวร์ ในการขโมยข้อมูล เรียกค่าไถ่ ประจาน และเปิดเผยข้อมูล ซึ่งทั่วโลกมีบริษัทถูกแฮกข้อมูลกว่า 100 บริษัทต่อเดือน ขณะที่ประเทศไทย ถูกแฮกเฉลี่ยเดือนละ 5-6 บริษัท แต่ไม่มีใครเปิดเผย เพราะกลัวมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ พีดีพีเอ จึงมีแผนในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้มีโทษทางปกครอง หรือค่าปรับลักษณะเดียวกับกฎหมายพีดีเอ “สกมช. มีหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐานระบบไอทีให้หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ แต่กลับพบว่าหน่วยงานภาครัฐส่วนใหญ่ไม่มีความพร้อมด้านงบประมาณในการปรับปรุงระบบไอทีให้ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการถูกแฮกข้อมูล ซึ่งอำนาจของ สกมช. ตามกฎหมาย มีเพียงการตักเตือน และท้ายสุดคือการรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เอาผิดตามมาตรา 157 เท่านั้น ทำให้หน่วยงานรัฐไม่สนใจสร้างมาตรฐานตามที่ สกมช. กำหนด” พล.อ.ต.อมร กล่าว... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/1903270/

โพสเมื่อ : 18 ม.ค. 66   อ่าน 849 ครั้ง      คำค้นหา :