‘หมอธี’สั่งหาช่องกม.นำ2ครูกลับเข้ารับราชการอย่างถูกต้อง จี้สอบผอ.เขตพื้นที่ฯ สั่งบรรจุ ไม่ขออนุมัติก



กรณี น.ส.วนาลี ทุนมาก หรือครูแอน อายุ 27 ปี และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี หรือ ครูวัลย์ อายุ 26 ปี 2 ครูสาวซึ่งสอบได้ในลำดับที่ 66 และ 67 ตามลำดับของบัญชีสอบครูผู้ช่วยของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต 38 (สุโขทัย-ตาก) และสพม.เขต 38 ได้เรียกบรรจุและแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย วิชาสังคมศึกษา ที่โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก ก่อนบัญชีจะหมดอายุ 2 ปีในวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 โดยครูทั้งสองไปรายงานตัวที่โรงเรียนในวันที่ 4 พฤษภาคม ตลอดเวลาที่สอน 5 เดือน ระหว่างเดือนพฤษภาคม- กันยายน 2560 ไม่เคยได้รับเงินเดือน ต่อมาทาง สพม. เขต 38 แจ้งว่าคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ตาก มีมติไม่อนุมัติการขอปรับเปลี่ยนวิชาเอกและขอเพิ่มเติมตำแหน่งว่างโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม และไม่อนุมัติการบรรจุแต่งตั้ง ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งครูผู้ช่วย จากนั้นนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้เยียวยาเบื้องต้น โดยมอบเงินจากกองทุนสวัสดิการ กพฐ.จำนวนหนึ่ง พร้อมกันนั้นได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงและประสานโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาเพื่อจ้างเป็นครูอัตราจ้างชั่วคราว โดยครูแอน เป็นครูอัตราจ้าง ที่โรงเรียนเมืองเชลียง จ.สุโขทัย และครูวัลย์ เป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนเลยพิทยาคม จ.เลย ในระหว่างรอนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาเรื่องกลับเข้ารับราชการ และล่าสุดทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) ตากอยู่ระหว่างการเรียกเจ้าหน้าที่ด้านเอกสารของโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม มาสอบปากคำ เนื่องจากปล่อยให้ครูทั้งคู่สอนโดยไม่ตรงสาขาที่เสนอขอบรรจุ เป็นเวลานาน โดยไม่แจ้งสพม.เขต 38 เพื่อขอเปลี่ยนสาขาวิชาเอกให้ตรงตามจริงนั้น

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า โดยหลักการการบรรจุแต่งตั้ง โดยที่ไม่ได้ขออนุมัติจากกศจ. ซึ่งในปัจจุบันเป็นผู้มีอำนาจบรรจุแต่งตั้งตามกฎหมาย ถือว่าเป็นความผิดของรัฐ หรือของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หรือใครก็ตามที่ไปบรรจุแต่งตั้ง ส่วนจะด้วยเจตนาอะไร หรือเพราะเป็นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผ่านการบริหารจัดการระหว่างรักษาการศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) กับศธจ. ตัวจริง ก็ต้องไปสอบสวน เพราะมีกศจ. อยู่แล้ว ทำไมไม่ขออนุญาตบรรจุแต่งตั้ง ทั้งนี้กรณีของครูทั้ง 2 คน ถือว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทางปกครองของภาครัฐ มีคำสั่งบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วยไปแล้ว 5 เดือน โดยสามัญสำนึกชัดเจนว่า ภาครัฐผิด และด้วยความเป็นธรรม ทั้งคู่ไม่ควรได้รับผลกระทบ แต่จะบรรจุกลับเข้ารับราชการอย่างไร ก็ต้องหาช่องทางที่ถูกกฎหมาย

“ผมได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดศธ. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พิจารณาข้อกฎหมายว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งผมคงไม่ก้าวล่วง เพราะมีทีมกฎหมายอยู่ ส่วนจะออกมาในรูปแบบใด ค่อยว่ากันอีกที ส่วนคำสั่งบรรจุแต่งตั้งดังกล่าว ในทางปกครองถือว่าเป็นคำสั่งที่ถูกต้อง แม้ภาครัฐจะทำผิด ก็ถือว่าถูกในแง่ว่ามีคำสั่งแล้ว ส่วนผู้อำนวยการ สพท. ที่บรรจุแต่งตั้งโดยไม่ได้ขออนุมัติจากกศจ. ความผิด เห็นชัดเจน แต่ต้องไปตรวจสอบว่าทำด้วยมูลเหตุจูงใจอะไร ทำเพราะไม่รู้จริง ๆ หรือคิดว่าเป็นช่วงรอยต่อ สามารถบรรจุแต่งตั้งได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงต้องไปตรวจสอบว่า ผู้อำนวยการสพท. ที่เกี่ยวข้อง เคยมีปัญหากรณีดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ รู้หรือไม่ว่าทำไม่ได้ และเจตนาคืออะไร” รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าว

รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อว่า ส่วนครู 2 คนที่ได้รับผลกระทบ มีทางแก้ไขแน่นอน ส่วนจะวิธีการใดนั้น ตนไม่ทราบ ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมายอาจจะเสนอว่า 5 เดือนที่ผ่านมาให้ถือว่าบรรจุเป็นครูอัตราจ้าง และให้ขอบรรจุแต่งตั้งใหม่เป็นครูผู้ช่วยอย่างถูกต้องต่อไป ต้องดูรายละเอียด อย่างไรก็ตามการที่ตนเข้ามาดูเรื่องนี้เอง เพราะต้องการให้ราชการทำงานอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่มีปัญหาอะไรให้ครูรับกรรม ไม่ถูกต้อง ครูสองคนนี้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เขาไม่ควรต้องมารับผลการกระทำของราชการซึ่งผิด ต้องแก้ไข และหาความผิดจากทางส่วนราชการที่ทำผิด ว่าเจตนาแบบไหน หากพบว่า เป็นเจตนาทั้ง ๆ ที่เตือนแล้ว ก็ต้องมีโทษทางวินัย แต่ต้องว่ากันตามขั้นตอน เพราะตอนนี้ตนยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะตอบรายละเอียด


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจากมติชนออนไลน์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 - 16:19 น.


โพสเมื่อ : 10 พ.ย. 60   อ่าน 1913 ครั้ง      คำค้นหา :