เปิดทุนเรียนฟรีทายาทสหกรณ์ สานต่ออาชีพพระราชทานเลี้ยงโคนม - การเกษตร
กรมส่งเสริมสหกรณ์ หนุนคนรุ่นใหม่เลี้ยงโคนม
สานต่ออาชีพพระราชทาน มอบทุนการศึกษาลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม
สนใจสมัครด่วนวันนี้-7 มี.ค.64 เมื่อวันที่
3 มี.ค.64 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า
เนื่องจากปัจจุบันพบว่าเกษตรกรเลี้ยงโคนมส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย
มีอายุเฉลี่ย 55-65 ปี และมีความต้องการอยากให้ลูกหลานสานต่ออาชีพ
ขณะเดียวกันในส่วนของสหกรณ์โคนมก็ขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ
มาส่งเสริมฟาร์มโคนมสมาชิก
ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ตระหนักการสร้างความมั่นคงในอาชีพการเลี้ยงโคนม
จำเป็นต้องสร้างคนรุ่นใหม่
ซึ่งเป็นบุตรหลานสมาชิกสหกรณ์โคนมมาต่อยอดอาชีพพระราชทาน
จึงได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ที่ว่า
"ต้องปลูกฝังลูกหลานสมาชิกให้รักอาชีพการเลี้ยงโคนม
มีผู้สืบทอดอาชีพการเลี้ยงโคนม
และมีการอบรมส่งเสริมให้ความรู้ในการเลี้ยงโคนม"
เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน
ทรงเปิดโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมของสหกรณ์โคนมปากช่อง จำกัด จ.นครราชสีมา
วันที่ 5 พ.ย.57 มาสานต่อแนวพระราชดำริ
โดยได้ทำโครงการความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ
ในการสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาสัตวแพทยศาสตร์ สัตวศาสตร์
แก่ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560
ทั้งนี้ปีการศึกษา 2564 ได้ขยายโครงการความร่วมมือกับสถานศึกษาเพิ่มเติม
ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตร ซึ่งทุนฯ
ดังกล่าวได้มาจากการจัดสรรดอกผลเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จำนวน 23.187 ล้านบาท
มาเป็นทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานสมาชิกสหกรณ์ ทั้ง 2 โครงการจนจบการศึกษา
ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมโครงการ
จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ จุฬาฯ (คณะสัตวแพทยศาสตร์
และสำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร) ม.ขอนแก่น ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
ม.มหาสารคาม ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
และสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา
ปัจจุบันมีทายาทสมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมได้รับทุนฯ แล้วจำนวน 10 ทุน
แบ่งเป็นปีการศึกษา 2562 จำนวน 1 ทุน และปีการศึกษา 2563 จำนวน 9 ทุน
รวมเงินทั้งสิ้น 2.519 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2564
นอกจากทุนการศึกษาสาขาสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์แล้ว
จะมีการเพิ่มสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตรด้วย
โดยเป็นความร่วมมือกับสถานศึกษาตามโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตร
ประกอบด้วย จุฬาฯ ระดับปริญญาตรี สาขาการบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตร
เรียน 4 ปี มีจำนวน 10 ทุนต่อปี และสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร
และสถานศึกษาประเภทเกษตรกรรมและประมง
ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แบ่งเป็น ระดับ ปวส. เรียน 2 ปี
มีจำนวน 50 ทุนต่อปี และระดับปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) เรียน 2 ปี จำนวน 20
ทุนต่อปี

น.ส.อัญธิกา
นาคนารี นศ.คณะสัตวแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ม.ขอนแก่น
ซึ่งได้รับทุนการศึกษาเป็นคนแรกของโครงการ เผยว่า
ได้สมัครเข้าร่วมโครงการผ่านสหกรณ์โคนมท่าม่วง จำกัด อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เนื่องจากครอบครัวเป็นสมาชิกสหกรณ์โคนมที่นี่
ปัจจุบันมีโคนมอยู่ในความดูแลจำนวน 20 ตัว
ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีโอกาสช่วยดูแลกิจการครอบครัวมากนัก
เนื่องจากยังขาดความรู้เรื่องการดูแลโคนม จึงได้แค่ช่วยทำความสะอาดฟาร์ม
สิ่งที่อยากพัฒนา ได้แก่ การปรับปรุงเรื่องสายพันธุ์ อาหารและการผสมเทียม
ซึ่งปัจจุบันโคนมส่วนใหญ่เป็นลูกผสมมีไขมันนมค่อนข้างน้อย
จึงอยากจะพัฒนาตรงนี้
ด้าน น.ส.ปริสปา วิจารา คณะสัตวแพทยศาสตร์
ชั้นปีที่ 1 จุฬาฯ กล่าวว่า สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
เป็นผู้ส่งคัดเลือกเข้ารับทุน โดยที่บ้านทำโคนมใน ต.หนองหญ้าเสือ
อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ปัจจุบันมีโคนมอยู่ในความดูแลกว่า 40 ตัว
ตั้งใจว่าหลังจบการศึกษาสัตวแพทย์แล้วก็จะกลับมาช่วยดูแลฟาร์มโคนมของครอบครัว

"ตอนนี้อยู่ปี
1 ยังเรียนรวม ปีหน้าเขาก็จะให้เลือกระหว่างสัตว์เล็ก หมาแมวและปศุสัตว์
หนูจะเลือกปศุสัตว์ค่ะ เพราะจะได้กลับไปทำงานที่บ้านหลังเรียนจบ
การเลี้ยงโคนมในปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องอาหารโค
อยากพัฒนาสูตรอาหารเพื่อการให้น้ำนมต่อตัวมากขึ้น
เพราะขณะนี้ยังค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเต้านมอักเสบ โคไม่กินอาหาร
ป่วยง่าย อยากจะใช้ความรู้การจัดการคุณภาพโคและฟาร์มให้ดียิ่ง
สำหรับทุนให้แค่ค่าเทอมอย่างเดียว เทอมละ 3.4 หมื่นบาท ค่ากินอยู่ออกเอง
ดีสำหรับครอบครัวหนูด้วย เพราะค่าเทอมค่อนข้างสูง ช่วยแบ่งเบาพ่อแม่ได้"
น.ส.ปริสปา กล่าว
สำหรับผู้สนใจ
ขณะนี้เปิดรับสมัครผู้ขอรับทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2564
ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 มี.ค.64 สอบถามรายละเอียดได้ที่
กลุ่มพัฒนาบุคลากรสหกรณ์ สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์ โทร.0 2669 4577
สนง.สหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศหรือสหกรณ์โคนม และสหกรณ์การเกษตร
ใกล้บ้านทุกวันในเวลาราชการ.
ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ
|
โพสเมื่อ :
04 มี.ค. 64
อ่าน 1386 ครั้ง คำค้นหา :
|
|