อัดเกณฑ์ย้ายครู สพฐ.ทำศึกษาชาติดิ่งเหว

หวั่นโรงเรียนได้แม่พิมพ์ไม่ตรงสาขาที่สอน จ่อยื่น “ธีระเกียรติ” รีบแก้ไข

จากกรณีนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ลงนามหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 117 เรื่องการย้ายข้าราชการครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปี พ.ศ.2561 ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยกำหนดองค์ประกอบ ตัวชี้วัดเป็นค่าคะแนน ประกอบการประเมินรับย้ายข้าราชการครูของโรงเรียน เช่น แบ่งเป็นคะแนนด้านวุฒิการศึกษา ความรับผิด ชอบงาน ประสบการณ์สอน วิชาเอกตามความจำเป็นของสถานศึกษา โดยที่ความต้องการครูวิชาเอกใดของโรงเรียน จะไม่เป็นเงื่อนไขเหมือนที่เคยปฏิบัติ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เสี่ยงสร้างความเสียหายใหญ่แก่วงการศึกษาชาตินั้น

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นายสานิตย์ พลศรี นายกสมาคมครูชนบทจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะสร้างความเสียหายอย่างมาก เพราะจะทำให้การศึกษาไทยยิ่งย่ำแย่และตกต่ำลงไปอีก ทั้งยังจะสร้างความเหลื่อมล้ำและความแตกแยก เกิดปัญหาการฟ้องร้องกันวุ่นวายไปหมด พ่อแม่ ผู้ปกครอง จะไม่ส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนที่มีครูผู้สอนที่ไม่ตรงวุฒิที่สอน และอาจจะบานปลายหนักลามไปถึงการประท้วงไม่ต้อนรับครูไม่ตรงวิชาเอกที่โรงเรียนต้องการ เพราะนั่นหมายถึงคุณภาพของลูกหลานเขาคงจะแย่ยิ่งกว่าเดิมไปอีก

“ต่อไปถ้าโรงเรียนต้องการวิชาเอกเคมี แต่ผู้ยื่นขอย้ายมาจากวิชาเอกพลศึกษา หรือครูเอกพลศึกษาได้คะแนนประเมินรวมทุกตัวชี้วัดสูงกว่าครูวิชาเอกเคมีที่จะขอย้ายเข้ามาโรงเรียนเดียวกัน แน่นอนว่าโรงเรียนแห่งนั้นก็ต้องรับย้ายครูพลศึกษา เพราะเกณฑ์ประเมินรับย้ายในครั้งนี้ส่งผลทำให้ความต้องการครูวิชาเอกใดของโรงเรียนจะไม่เป็นเงื่อนไขในการรับย้ายเหมือนที่เคยปฏิบัติกันมาแต่อดีต ซึ่งหากไม่รับย้ายครูพลศึกษาที่ได้คะแนนประเมินรวมสูงกว่าก็จะเกิดปัญหาการฟ้องร้อง ส่วนครูเข้าใหม่ที่ยังไม่มีคะแนนประสบการณ์ ความรับผิดชอบงาน ก็จะเสียเปรียบกลายเป็นความเหลื่อมล้ำ และปล่อยให้ระบบเส้นสายเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายขึ้น” นายสานิตย์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. และ พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. เพื่อเรียกร้องให้เร่งแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าวโดยด่วน เพราะเชื่อว่าจะเสี่ยงต่อการทำให้การศึกษาชาติดิ่งเหวลงแน่นอน.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ