บอร์ด กพฐ.ยกเว้นจำกัดเด็ก ม.4 ต่อห้อง เปิดทางเพิ่มที่นั่ง-ขยายห้องเรียน

ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ซึ่งเป็นการประชุมวาระพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2561 ที่กำหนดจำนวน 40 คนต่อห้อง ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จนก่อให้เกิดปัญหาโดยเฉพาะนักเรียนชั้น ม.3 ที่จะเรียนต่อ ม.4 ในโรงเรียนเดิมว่า บอร์ด กพฐ.เห็นชอบตามที่ สพฐ.ได้เสนอขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบแนวปฏิบัติการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2561 เพื่อเปิดโอกาสให้โรงเรียนที่มีเหตุผลและความจำเป็นไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติ ได้ทำแผนขอขยายห้องเรียนหรือเพิ่มจำนวนนักเรียนต่อห้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา โดยให้หารือกับคณะกรรมการสถานศึกษา จากนั้นให้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการรับนักเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาที่สังกัดถือเป็นที่สิ้นสุด แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 50 คนต่อห้อง และการยืดหยุ่นดังกล่าวให้รวมไปถึงโรงเรียนทั่วไปด้วยไม่เฉพาะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงเท่านั้น

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า มติ กพฐ.ดัง กล่าวเป็นการแก้ปัญหาช่วงรอยต่อเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ในอนาคตการลดจำนวนนักเรียนลงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เกิดคุณภาพในการจัดการเรียนการสอน ดังนั้นการรับนักเรียนชั้น ม.1 ในปีการศึกษา 2561 ให้ยึดตามหลักเกณฑ์ 40 คนต่อห้องตามเดิม ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเป็นการรับใหม่ ส่วนการรับนักเรียนในปีการศึกษา 2562 และ 2563 ที่ยังมีนักเรียน ม.ต้นค้างท่ออยู่จะมีการหารือกันอีกครั้ง หากจำเป็นอาจต้องยืดหยุ่นถึงปีการศึกษา 2563 เพื่อให้เด็กกลุ่มนี้จบ ม.ต้น จากนั้นในปีการศึกษา 2564 ก็จะเริ่มได้อย่างจริงจัง เพราะการรับนักเรียน ม.1 ล็อกจำนวนอยู่ที่ 40 คนต่อห้องอยู่แล้ว ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาว บอร์ด กพฐ.เห็นว่ามี 2 เรื่องที่ สพฐ.ต้องเร่งดำเนินการหลังจากนี้ คือ การวางแมปปิ้ง (Mapping) เพิ่มจำนวนโรงเรียนเพื่อรองรับนักเรียน เนื่องจากการขยายตัวของเมืองทำให้มีประชากรไปอาศัยเพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการวางแผนรองรับโดยอาจจัดตั้งโรงเรียนเพิ่ม หรือขยายอาคารเรียนและเพิ่มห้องเรียนในโรงเรียนที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งเร่งดำเนินการโรงเรียนคู่พัฒนาโดยให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง 282 โรง จับคู่โรงเรียนใกล้เคียงในการพัฒนาคุณภาพควบคู่กัน โดยให้เริ่มดำเนินการทันที.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ