เริ่มได้ยินมาหนาหูขึ้นเรื่อยๆ กับคำถามที่ดังก้อง “ยุคนี้เรียนไปทำไมนิเทศฯ”, “สื่อมีแต่ปิดเรียนนิเทศฯแล้วตกงาน” ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสื่อมวลชนบางแขนงที่ไม่ได้รับความนิยมเหมือนแต่ก่อน หรือแม้แต่การปิดตัวของคณะหรือบางสาขาวิชาในสถาบันการศึกษาบางแห่ง
แต่ท่ามกลางกระแสข่าวเชิงลบเกี่ยวกับแวดวงนิเทศศาสตร์เหล่านี้ หากมองให้ลึกลงไป จะเห็นว่าปัจจุบันมีรายการโทรทัศน์หรือสื่อรูปแบบใหม่ๆ ที่ประสบความสำเร็จให้เห็นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
นิเทศฯม.กรุงเทพ ปรับตัวให้ทันกระแสโลกตลอดเวลา ด้วยการเปิดหลักสูตรใหม่ๆ ที่ตอบสนองรสนิยมและความต้องการของเด็กทุกยุค รวมทั้งพัฒนาหลักสูตรทั้งเก่าและใหม่ให้สอดคล้องกับตลาดงานในระดับประเทศและนานาชาติ
ดร.พีรชัย ดร.พีรชัย เกิดสินธุ์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ แสดงทัศนะว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นเปลี่ยนไปมาก เด็กสมัยนี้มีความชัดเจนในตัวตน ความต้องการ และเป้าหมายในชีวิต ไม่ชอบให้ใครมาชักจูงง่ายๆ
เด็กที่เรียนนิเทศศาสตร์จึงไม่ได้เลือกเรียนตามกระแสเหมือนในอดีต แต่เป็นคนที่ต้องการเรียนและอยากทำงานด้านนี้อย่างจริงจัง!
นอกจากนี้การขยายตัวของช่องทางสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์สะท้อนให้เห็นตลาดงานที่กว้างขึ้น
ขณะที่คณะวิชาก็มีหน้าที่ในการผลิตผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้าไปรองรับตลาด Mass Customization (ตลาดแบบมวลชนที่มีความเฉพาะตัว) และ Niche Market ซึ่งสถานศึกษาที่จะไปได้ไกลกว่าในยุคนี้ต้องเป็นตัวจริง ที่เข้าใจทั้งความต้องการของตลาดและความต้องการของเด็กผู้มีความชัดเจนในตัวเองเท่านั้น “ศาสตร์ทางนิเทศถือเป็นศาสตร์ที่สำคัญในทุกยุคสมัย เพราะเป็นการผสมผสานระหว่าง Communication Skill, Creativity Skill และ Collaborative Skill ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับศตวรรษที่ 21
ทุกองค์กรล้วนต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารเพราะต่างก็ต้องการคนที่เข้าใจธรรมชาติของการสื่อสารอย่างแท้จริงมาดูแลด้าน communication ให้ ไม่ใช่แค่ในองค์กรสื่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เราจึงมุ่งผลิตผู้ที่มีความเข้าใจทั้งด้านลึกและกว้างของการสื่อสาร โดยไม่ยึดติดแค่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง พร้อมกับทำให้เด็กมีพื้นที่ว่างเหมือนน้ำครึ่งแก้วเสมอเพื่อไว้เติมเต็มเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปในอนาคต” Communication Skill ดังกล่าวถูกผสมผสานลงในสาขาวิชาต่างๆ ของคณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ ได้แก่ บรอดแคสติ้งและวารสารดิจิทัล การโฆษณา ศิลปะการแสดง การสื่อสารแบรนด์ การประชาสัมพันธ์
รวมทั้ง 2 สาขาวิชาใหม่อย่างการผลิตอีเว้นท์ การจัดการนิทรรศการและการประชุม และหลักสูตรนานาชาติการผลิตสื่อนวัตกรรม (Innovative Media Production)
สำหรับสาขาการผลิตอีเว้นท์ฯ นั้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่เปิดสอนการทำอีเว้นท์โปรดักชั่นด้วยแนวคิดล้ำๆ สไตล์นิเทศศาสตร์ โดยหลักสูตรได้รับการออกแบบร่วมกับภาคธุรกิจ เช่น บริษัท CMO Group จำกัด (มหาชน) และสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน
มีเซเลบริตี้ชื่อดังมาร่วมสอน อาทิ เสริมคุณ คุณาวงศ์ ผู้บริหารบริษัท CMO, ป้าตือ-สมบัษร ถิระสาโรช, เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร ฯลฯ
ส่วนสาขาการผลิตสื่อนวัตกรรมก็มุ่งปั้นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อป้อนทุกธุรกิจและทุกแพลตฟอร์ม ไม่จำกัดแค่อุตสาหกรรมบันเทิง ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ
ทั้งยังคาดหวังว่าผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะไปพัฒนาธุรกิจต่างๆ ให้เติบโตขึ้น หรือแม้แต่สร้างโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศความร่วมมือกับ WebTVAsia, HUMAP และ Dong-Ah Institute of Media and Arts (DIMA) เพื่อบ่มเพาะทักษะด้านการผลิตสื่อไปแล้ว
และล่าสุดกำลังเจรจากับ C2NE จากเกาหลีเพื่อปั้นสถาบันผลิตซูเปอร์สตาร์ในระดับเวทีโลกอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า นิเทศศาสตร์ยังคงเป็นวิชาที่จำเป็นต้องเรียน ตราบเท่าที่การสื่อสารภายในโลกใบนี้ยังคงมีความสำคัญ.