บอร์ดตีกลับ สกสค.ขอปรับเงินเดือน

บอร์ด สกสค.ตีกลับ สกสค.ขอขึ้นเงินเดือน แนะไปศึกษาข้อมูลเงินเดือนของหน่วยงานที่คล้ายกัน ระบุเงินเดือน พนง.แรกเข้าอยู่ที่ 17,920บาท ระดับผอ.สำนัก 80,000 บาท ด้าน “ปลัดกำจร” มอบ “สุรพล” ปรับแก้กฎหมายโดยเฉพาะให้สิทธิ เลขาธิการ สกสค.ตั้งคณะกรรมการฯได้เอง

วันนี้ (28 ก.ค.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (สกสค.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ(สกสค.) เสนอขอปรับขึ้นบัญชีเงินเดือนพนักงาน สกสค. ตามที่รัฐบาลได้มีมติปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการไปเมื่อเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ขอให้ สกสค. กลับไปทบทวน รายละเอียดรวมถึงให้ไปศึกษาข้อมูลเงินเดือนขององค์กรที่มีลักษณะคล้ายคลึง กัน เช่น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เป็นต้น เพราะหากขึ้นให้กับพนักงาน สกสค. จะต้องไปดูในส่วนของ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และองค์การค้า ของสกสค.ด้วย

“สกสค.มีพนักงาน รวม 670 คน เงินเดือนพนักงานแรกเข้าอยู่ที่ 17,920 บาท อายุงาน 5 ปีขึ้นไป ได้รับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 25,000 บาท อายุงาน 10 ปีขึ้นไป เงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000-40,000 บาท ส่วนระดับผู้อำนวยการสำนักอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาท ทั้งนี้บัญชีเงินเดือนดังกล่าวมีการจัดทำมาตั้งแต่บอร์ดชุดเก่า จึงให้บอร์ดใหม่พิจารณาตามขั้นตอน หากมีข้อมูลเปรียบเทียบแล้ว ต้องมาดูว่าระดับไหนควรได้รับการปรับเพิ่มบ้าง เพราะเงินเดือนพนักงาน สกสค.ค่อนข้างสูง”รศ.นพ.กำจร กล่าว

รศ.นพ.กำจร กล่าวว่า ตนพูดคุยกับ ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการเงิน กู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.)ซึ่งจะเข้ามาดูข้อกฎหมายของกองทุนที่อาจจะต้องมีปรับแก้ ซึ่งอาจจะต้องแก้ในภาพรวมโดยเฉพาะที่กำหนดให้ เลขาธิการ สกสค. มีอำนาจไปตั้งคณะกรรมการกองทุนฯ ต่าง ๆ ได้เอง โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสกสค. ขณะเดียวกันตนได้ขอให้นายสุรพล ช่วยหาช่องทางกฎหมายในการติดตามกลุ่มครูที่ไม่ยอมชำระหนี้ตามกำหนด และต้องใช้เงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ชำระแทนไปถึง 4,000 ล้านบาท เพราะถือว่าเป็นเงินของกองทุนทั้งหมด 

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 28 กรกฎาคม 2558