‘บิ๊กอุ้ม’ เร่งปฏิวัติการศึกษา ชงของบปี68 เพิ่ม 10,000 ล้าน หนุนเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา



เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมประสานภารกิจ ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล หรือ PISA  ซึ่งมีการขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่เดินหน้าได้อย่างรวดเร็วและได้มีจัดทำหลักสูตรเวิร์กช็อป ระยะสั้น ปรับข้อสอบ PISA สู่โลกดิจิทัลด้วยเกม เป็นเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อพัฒนาครูผู้สอนให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อสอบ PISA และรูปแบบข้อสอบดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่นำเกมมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือและเทคนิคในการจัดสอบและวิเคราะห์ผลซึ่งจะเปิดรับสมัครวันที่ 19-23 กรกฎาคมนี้

ขณะเดียวกัน ได้ขยายผลสร้างการรับรู้ PISA ผู้บริหารสถานศึกษาใหม่ 4 ภูมิภาค การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาภาคเหนือ ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 4,423 คน ในรูปแบบออนไลน์ ในตอนนี้ PISA มีความก้าวหน้าไปมาก ซึ่งได้มอบหมายให้ทาง สพฐ. ที่เป็นหน่วยงานหลักดำเนินการร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แต่มิติในวันนี้ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างครบถ้วนเท่าที่ควรผมจึงได้สั่งการให้การดำเนินการสอดคล้องกับที่สพฐ.รายงาน ศธ.พยายามจะดูแลและขับเคลื่อนหน่วยงานการศึกษาอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดของศธ.ให้มีการดำเนินการขับเคลื่อนไปด้วยกัน

พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้มีการติดตามขับเคลื่อนงบประมาณในส่วนของปี 2567 ซึ่งมีผลเป็นที่น่าพึงพอใจห่างจากเป้าหมายเพียงเล็กน้อย โดยในปีต่อไปการจัดสรรงบประมาณอาจจะปรับรูปแบบงบประมาณแบบบูรณาการมากขึ้น เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดความคุ้มค่า นอกจากนี้ในส่วนของแนวทางลดค่าใช้จ่ายงบสาธารณูปโภคของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมอบผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำศธ. เป็นประธานคณะทำงานมีความก้าวหน้าไปมาก พร้อมได้เน้นย้ำ สพฐ. ในการดำเนินโครงการสุขาดี มีความสุข ครอบคลุมโรงเรียนในพื้นที่ต่าง ๆ ให้มากที่สุด โดยอาจตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามการดำเนินงาน

“ศธ.ยังมีการดำเนินการในส่วนของงบประมาณปี 2568 ในการขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อนำมาขับเคลื่อนนโยบายทางการศึกษาเป็นไปตามแนวทางที่ได้วางไว้ คือ เรียนดีมีความสุข และจะต้องมีการปฏิวัติการศึกษาหากขาดงบประมาณอาจจะทำให้การปฏิวัติการศึกษาไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งจากการประเมิณงบประมาณที่ต้องการเพิ่มจะมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทและงบประมาณในส่วนนี้จะนำมาพัฒนานโยบาย เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime ด้วยส่วนหนึ่ง”พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าว...


อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/education/news_4685967

โพสเมื่อ : 18 ก.ค. 67   อ่าน 262 ครั้ง      คำค้นหา :