ปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างฐานการพัฒนาประเทศไทยที่ยั่งยืน

ปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างฐานการพัฒนาประเทศไทยที่ยั่งยืน

          พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัยผู้บัญชาการทหารเรือ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา  ผลักดัน การปฏิรูป วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จัดเวทีใหญ่ ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน หาแนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ยาเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปฏิรูปที่สอดคล้องกับโร้ดแมพ คสช. ในการนาพาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
          เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมพ.ศ.2557 ที่ผ่านมา พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัยประธานการเปิดเวทีปฏิรูป วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 1 จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อการพัฒนาประเทศไทยว่า  ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาในการบริหารประเทศของ คสช. พบว่าภาครัฐยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไม่มากเท่าที่ควร ส่วนใหญ่ภาคเอกชน เป็นผู้มีบทบาทในการใช้ประโยชน์จากการใช้นวัตกรรม ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีด้านเศรษฐกิจ  แต่ภาคเอกชนยังประสบปัญหาที่ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคุณภาพกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ของประเทศ หรือการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาซึ่งมีต้นทุนที่สูง จึงเป็นที่มาของการจัดเวทีปฏิรูป วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมขึ้น ซึ่งเป็นก้าวย่างที่สำคัญของงานพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อกำหนดแนวทางที่เป็นรูปธรรม และยังเป็น การเปิดโอกาสในการนำเสนอข้อมูลและ ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง โดยให้ สวทน. รวบรวมและนำไปกำหนดเป็นแนวทางในการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สมบูรณ์ หรือสมุดปกขาว นอกจากนี้ เวทีปฏิรูปที่จะจัดขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จะเป็นการกระตุ้นทุกภาคส่วนให้ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้อีกทางหนึ่ง
          เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดเวทีดังกล่าว ในการช่วยสนับสนุนนโยบายเร่ งด่ วนด้านเศรษฐกิจ และสอดคล้องกับ โร้ดแมพ ของ คสช. เพื่อนำไปสู่ รูปธรรมการปฏิรูปทั้งในด้านกลไกและกฎหมายต่างๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะ การจัดเวทีส่วนภูมิภาค จะเป็นการผลักดันให้เกิดกระแสการนำเสนอ ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นการแปลงแนวคิด ความต้องการจากส่วนภูมิภาค ไปสู่กฎหมายและแนวทางการปฏิบัติให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศโดยรวม ซึ่งเวทีปฏิรูปส่วนภูมิภาคจะจัดขึ้น 5 เวที ที่สงขลา ปทุมธานี ขอนแก่น และเชียงใหม่ เป็นต้น
          พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ได้ให้ความสาคัญกับเรื่อง นวัตกรรม  ซึ่งเห็นได้จากตัวอย่างในประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ส่วนใหญ่ ประเทศเหล่านั้น ใช้นวัตกรรมในการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ การบริการ นวัตกรรมคือการนำความรู้บวกความคิดมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ ประเทศเราต้องใช้นวัตกรรมในทุกด้าน ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ต่อผลิตภัณฑ์และการบริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้น ให้ได้ในอนาคต จากการจัดเวทีฏิรูปในครั้งนี้
          ความร่วมมือด้านการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP - Public Private Partnership) เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูป วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม อย่างเป็นรูปธรรม พลเรือเอก ณรงค์ ได้ให้ข้อมูลว่า ความร่วมมือในลักษณะดังกล่าวมีอยู่ในวงจำกัด ซึ่งรัฐต้องให้การสนับสนุนให้ความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้น หรือโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคเอกชนคือ Talent Mobility หรือการนำนักวิจัยของไทย ไปช่วยสนับสนุนภาคเอกชนให้สามารถสร้างนวัตกรรมขึ้น ปัจจุบันมีนักวิจัยเก่งๆ เป็นจำนวนมากในภาครัฐและสถาบันการศึกษา เราจะกำหนดมาตรการส่งเสริมนักวิจัยหล่านี้ ให้สามารถเข้าไปพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านเทคนิคต่างๆ แก่ภาคเอกชน เป็นการแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนกำลังคนสายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน อีกทางหนึ่ง
          การปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จะเป็นพื้นฐานในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องหาแนวทางในการพัฒนาโดยใช้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้กลายเป็นพลังที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ประเทศพัฒนาในอนาคต ขอให้พวกเราน้อมนำหลักปรัชญาในการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งพัฒนาองค์รวม โดยยึดหลักการพัฒนาคนให้เข้มแข็ง เพื่อยกระดับุณภาพชีวิต ลดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อไปสู่การพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน
          สนใจรายรายละเอียดเวทีปฏิรูป วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ http://www.sti.or.th/stireform/ หรือ www.facebook.com/STIreform

    --มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 ส.ค. - 4 ก.ย. 2557--