![]() |
8มิ.ย.64-นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยนางกนกวรรณ วิลาวัลย์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.)
ซึ่งดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
ได้หารือร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถึงการช่วยเหลือโรงเรียนเอกชน
ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือ โควิด-19 โดยผลการหารือเบื้องต้นกับ รมว.คลัง
เห็นตรงกันว่าจะใช้มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan)
โดยหาแหล่งเงินกู้ เช่น ธนาคารต่างๆ
มาให้โรงเรียนเอกชนที่ประสบปัญหาได้กู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ในวงเงินที่สูงมากขึ้น
เพียงพอต่อการใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในส่วนของการบริหารกิจการโรงเรียน ทั้งนี้ตนได้ขอให้นางกนกวรรณ ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ รมว.คลัง ในการหาแหล่งเงินกู้ จัดทำรายละเอียดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกู้ยืม เพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องและแบ่งเบาภาระให้โรงเรียนเอกชนมากที่สุด และ ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ โดยคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เคยมีประกาศ กช.เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในส่วนของการบริหารกิจการโรงเรียนไปแล้ว โดยให้โรงเรียนในระบบ กู้ยืมเงินหรือยืมเงิน จากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบฯ โดยให้กู้ยืมโรงเรียนละไม่เกิน 3 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี และผ่อนชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 6 ปี โดยชำระเป็นรายเดือน หรือ รายไตรมาส แล้วแต่กรณี ซึ่งมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่กำลังจะจัดทำขึ้นใหม่นี้ มีแนวคิดที่จะขอให้กู้ยืมได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าที่กองทุนฯจัดให้ หรือ รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ในช่วงแรก หรือ มีวงเงินกู้ที่สูงขึ้นถึง 20 ล้านบาทเช่นเดียวกับที่ผู้ประกอบธุรกิจได้รับตาม มาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจ หรือ สินเชื่อฟื้นฟู
ที่มา : นสพ.ไทยโพสต์ |
โพสเมื่อ : 09 มิ.ย. 64 อ่าน 2042 ครั้ง คำค้นหา : |