ส.บ.ม.ท.ห่วงรวมกลุ่มสอบครูผู้ช่วย ได้ไม่ทันใช้ หวั่นขาดแคลน กระทบคุณภาพ วอนให้เขตฯ คัดเอง



ส.บ.ม.ท.ห่วงรวมกลุ่มสอบครูผู้ช่วย ได้ไม่ทันใช้ หวั่นขาดแคลน กระทบคุณภาพ วอนให้เขตฯ คัดเอง แนะ ‘ว16-17’ สอบเกิน 1 ครั้ง/ปี

นายณรินทร์ ชำนาญดู ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ในฐานะนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมปรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย จากเดิมที่มอบหมายให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ดำเนินการ มาเป็นใช้จังหวัดเป็นฐาน เช่น จ.นครราชสีมา มี 8 เขตพื้นที่ฯ ให้รวมอัตราว่าง และจัดสอบใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ที่ส่วนราชการมอบหมาย โดยสอบรวมจุดเดียว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และการเดินทาง ส่วนการสอบอื่นๆ เช่น การสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) มีแนวโน้มจะจัดสอบเป็นรายภาค เช่นเดียวกับการสอบผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่จะต้องปรับหลักเกณฑ์เช่นเดียวกันนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จัดสอบ มากกว่าการจัดสอบแบบรวมกลุ่ม เพราะจะทำให้สะดวกรวดเร็ว แก้ปัญหาขาดแคลนครูได้ทันสถานการณ์ ทั้งนี้ การสอบคัดเลือกครู และบุคลากรทางการศึกษา ถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่อยากให้คำนึงถึงการประหยัด หรือความคุ้มค่า ไม่คุ้มค่า มากเกินไป เพราะหากไม่สามารถหาครูมาบรรจุแทนอัตราว่างได้ทัน จะเกิดปัญหาขาดแคลน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการจัดการศึกษาในภาพรวมได้
 

“การให้เขตพื้นที่ฯ รวมกลุ่มจัดสอบ อาจเกิดความล่าช้า เพราะกว่าแต่ละเขตพื้นที่ฯ จะรวบรวมอัตราว่างได้ และจัดสอบพร้อมกัน อาจต้องใช้เวลา เพราะบางเขตพื้นที่ฯ ไม่ได้ขาดครู อีกทั้ง งบประมาณในการจัดสอบ ไม่น่าจะใช่ปัญหา เพราะผู้สมัครต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสอบเอง รายละ 300 บาทอยู่แล้ว คิดว่างบน่าจะมีเพียงพอ ไม่ทำให้เกิดปัญหาอย่างแน่นอน” นายณรินทร์ กล่าว

นายณรินทร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังอยากเสนอว่าการสอบครูผู้ช่วย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็น หรือมีเหตุพิเศษ (ว16) และในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ว17) ไม่ควรจัดสอบแค่ปีละ 1 ครั้ง แต่ควรกระจายอำนาจให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ เปิดสอบได้ทันทีเมื่อโรงเรียนขาดครู เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เช่นเดียวกับผู้อำนวยการสถานศึกษา และรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ในพื้นที่ห่างไกล ที่ได้ปรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา (ว19/2566) สำหรับสถานศึกษาในพื้นที่พิเศษ ไปแล้ว โดยกระจายอำนาจให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ที่มีอัตราว่าง สามารถประกาศรับได้ทันที

“ซึ่งในส่วนของพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่ผมอยู่ก็ได้ดำเนินการคัดเลือก และประกาศผลเรียบร้อยแล้ว สามารถบรรจุแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันเปิดภาคเรียนที่ 2/2566” นายณรินทร์ กล่าว

ที่มา นสพ.มติชนออนไลน์

 


โพสเมื่อ : 01 พ.ย. 66   อ่าน 170 ครั้ง      คำค้นหา :