‘อว.’ถอยไม่เพิ่มเงินเดือนผู้บริหารเต็มขั้น ยอมหัก0.5%เจียดให้บุคลากรผลงานดี
อว.ถอยไม่เพิ่มงด.ผู้บริหารเต็มขั้น ยอมหัก0.5%เจียดให้บุคลากรผลงานดีนายศุภชัย ปทุมนากุล
รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัต กรรม (อว.)
ในฐานะรองโฆษกอว. เปิดเผยว่า กรณีที่ข้าราชการ อว.ได้ส่งเรื่องร้องเรียน
การออกประกาศ อว.
เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการบริหารวงเงินการเลื่อนเงินเดือน
รอบการประเมินที่ 2 ปีงบประมาณ 2564
กำหนดการจัดสรรเงินเพื่อใช้ในการเลื่อนเงินเดือนเพื่อบริหารภายในกลุ่ม
และกันไว้บริหารส่วนกลาง โดยกลุ่มผู้บริหารจัดสรรวงเงินให้เต็มวงเงินที่ได้
คือร้อยละ 3 กลุ่มประเภทอำนวยการ
กลุ่มประเภทวิชาการระดับผู้ทรงคุณวุฒิและเชี่ยวชาญ กลุ่มสำนักงานรัฐมนตรี
จัดสรรให้ร้อยละ 2.95 กันเงินไว้ ร้อยละ 0.05 แต่กลุ่มภารกิจขับเคลื่อน
อววน. และกลุ่มภารกิจยุทธศาสตร์และสนับสนุนการขับเคลื่อน
อววน.ซึ่งเป็นข้าราชการระดับปฏิบัติงาน จัดสรรให้ร้อยละ 2.85
ถูกกันเงินไว้ร้อยละ 0.15 เพื่อนำเงินที่กันไว้ไปรวมกัน
และจัดสรรให้กับข้าราชการที่ปฏิบัติงานตามนโยบายของผู้บริหาร
และกันไว้อีกร้อยละ 0.10 นำมาจัดสรรให้กับหน่วยงานตามผลการปฏิบัติงาน
หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจเป็นกรณีพิเศษแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรม
ในการบริหารงานบุคคลกำหนดขึ้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้บริหาร นั้น
ทางอว.ได้ทำความเข้าใจกับข้าราชการแล้ว
การร้องเรียนดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิด กรณีไม่หักเงินผู้บริหารร้อยละ 0.05
เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ที่มีผลงานโดดเด่นนั้น
เพราะผู้บริหารต้องทำหน้าที่พิจารณาความดีความชอบของผู้มีผลงานโดดเด่น
การไม่หักเพื่อป้องกันเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน แต่เมื่อมีข้อร้องเรียน
จึงได้ทำการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ โดยให้หักเงินร้อยละ 0.05 ของผู้บริหารด้วย
แต่มีข้อตกลงกันว่า
ไม่จะมีการพิจารณาความดีความชอบในส่วนนี้ของกลุ่มผู้บริหาร
และพิจารณาเฉพาะกลุ่มบุคลากรเท่านั้น นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนอีกร้อยละ 0.10
ไม่ได้หักไว้เพื่อนำมาพิจารณาความดีความชอบ
แต่จะคืนให้กองงานที่ทำผลงานโดดเด่น
ซึ่งสุดท้ายจะกลับคืนให้กับบุคลากรเท่ากับว่า
บุคลากรก็จะได้รับการจัดสรรเงินร้อยละ 2.95 อยู่แล้ว
เพียงแต่ผู้ร้องอาจไม่ได้นำตรงส่วนนี้มาคิด
ทั้งนี้เมื่อมีการปรับหลักเกณฑ์การประเมินในครั้งนี้แล้ว เท่ากับว่า
ทุกคนจะได้รับการจัดสรรเงินเพื่อใช้ในการเลื่อนเงินเดือนเท่ากัน คือร้อยละ
2.95 รวมถึงจะมีการปรับแก้หลักเกณฑ์การประเมินในรอบถัดไป
โดยจะมีการกำหนดรายละเอียดตัวชี้วัด
และประกาศให้ทราบล่วงหน้าก่อนการประเมิน“ยอมรับว่า ปีนี้ไม่ได้ประกาศล่วงหน้า
แต่เมื่อมีข้อร้องเรียนก็ทำความเข้าใจ และส่วนใหญ่ก็มีความเข้าใจตรงกันแล้ว
ทั้งหมดเกิดจากความหวังดี เจตนาแรกคือ
ไม่ต้องการให้เกิดข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน แต่เมื่อมีความไม่เข้าใจ
ก็ได้อธิบายและดำเนินการให้เกิดความชัดเจน เป็นที่พอใจขอทุกฝ่าย” นายศุภชัย
กล่าว
ที่มา : นสพ. มติชนออนไลน์
|
โพสเมื่อ :
04 ต.ค. 64
อ่าน 2743 ครั้ง คำค้นหา :
|
|