รมต.เอาจริง ย้ำกรณีสามเสน ไม่ปล่อยคนทุจริต เข้ามาทำลายระบบ

ผอ.สามเสนฯมารายงานตัวตาม คำสั่งย้ายแล้ว พร้อมทำหน้าที่กุนซือยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ รอง ผอ.สพม.เขต 1 แจงคำสั่งย้ายเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย หากพ้นมลทินก็ส่งกลับไปทำหน้าที่เดิม ขณะที่ “หมอธีระเกียรติ” ไม่รับมุกที่ให้ ผอ.โรงเรียนทั่วประเทศแจงบัญชีทรัพย์สิน อ้างเรื่องใหญ่ ต้องถาม ป.ป.ช. ก่อน แต่ย้ำให้เร่งสอบกรณีโรงเรียนสามเสนฯ ยันถ้าผิดจริงไม่ปล่อยแน่ ด้าน ภตช.เข้ายื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ยกเลิกรับเด็กที่มีเงื่อนไขพิเศษในปีการศึกษาหน้า หลังได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองเพียบ

ความคืบหน้ากรณีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 กรุงเทพมหานคร มีคำสั่งย้ายนายวิโรฒ สำรวล ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสน วิทยาลัย เพื่อเปิดทางให้มีการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลิปกล่าวหา เรื่องเงินแป๊ะเจี๊ยะ แลกที่นั่งเรียนนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. หลังได้รับการเปิดเผยจากนายจตุรงค์ เปรมชัยพร รอง ผอ.สพม.เขต 1 ว่า นายวิโรฒมารายงานตัวตั้งแต่เวลา 08.30 น. ซึ่งได้หารือและมอบหมายงานโครงการยกระดับคุณภาพการศึกษาใน สพม.เขต 1 ให้วิเคราะห์ข้อมูลลำดับคะแนนของโรงเรียนที่อยู่ในอันดับต่ำสุด 10 โรง เพื่อดูว่ามีปัญหาอะไรและจะมีแผนดำเนินการอย่างไรเพื่อจะยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนดังกล่าว

ส่วนกรณีที่คำสั่งย้ายนายวิโรฒไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีถูกกล่าวหารับเงินแป๊ะเจี๊ยะนั้น นายจตุรงค์กล่าวว่า โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษามีอยู่แล้วไม่ใช่โครงการใหม่ และเมื่อมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น จึงมีคำสั่งให้นายวิโรฒมาช่วยราชการที่ สพม.เขต 1 เพราะโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยเป็นโรงเรียนใหญ่ที่มีศักยภาพสูง จึงอยากที่จะให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ และระหว่างนี้ก็เปิดทางให้กระบวนการสอบสวนดำเนินไป ซึ่งเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย หากผลการสอบสวนพบว่าไม่มีความผิดก็จะให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยตามเดิม เหมือนกับกรณีของผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นพ. ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กรณีศิษย์เก่าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยเรียกร้องให้มีการแสดงบัญชีทรัพย์สิน หนี้สินของผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาการเรียกรับเงินจากผู้ปกครองแลกกับการให้เด็กเข้าเรียนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หากจะใช้ ก็ต้องเป็นเกณฑ์ของประเทศ คงต้องไปถามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่อย่าง ไร ส่วนกรณีการกล่าวหาเรียกรับเงินเพื่อแลกที่นั่งเรียนที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยนั้น ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เร่งตรวจสอบ ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้คนทุจริตมาทำลายระบบแน่นอน ส่วนที่มีข้อเสนอให้ปรับระบบการรับนักเรียนให้มีความยุติธรรมมากขึ้นนั้น ขอให้รวบรวมความคิดเห็นต่างๆ เสนอนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) แต่ตนมีนโยบายชัดเจนในเรื่องการรับเด็กเข้าเรียนว่า ไม่มีการฝากเด็กแน่นอน และตนก็ทำเป็นตัวอย่าง

ขณะที่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาฯ กพฐ. กล่าวว่า ได้สั่งให้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงทั้ง 2 คณะ เร่งสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน รวมทั้งในส่วนที่นายวิโรฒไปแจ้งความเอาผิดกับผู้เผยแพร่คลิป ซึ่งเชื่อว่าเมื่อตำรวจมีการสอบสวนลึกลงไปก็จะพบข้อเท็จจริง โดยจะมีการขอข้อมูลหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบการพิจารณาด้วย อยากให้สังคมเข้าใจว่า สพฐ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ต้องใช้เวลา เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นคลิปที่บอกว่าเป็นฉบับเต็ม ทราบแต่เพียงว่าไปยื่นไว้ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งคงต้องรอข้อมูลจาก ป.ป.ท. อีกทางหนึ่งด้วย

“ตอนนี้อยากให้ทุกคนลองทบทวน นั่งหลับตาดูว่า ตอนนี้กำลังทำอะไรกับโรงเรียนสามเสนฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ทำอะไรไม่อยากให้กระทบกับเด็กที่เรียนอยู่ อยากให้ทุกฝ่ายคิดให้ดี นึกถึงเด็กนักเรียน จะทำอะไรอย่าให้เด็กได้รับบาดเจ็บ อย่าให้เด็กรู้สึกไม่ดีกับโรงเรียนของเขา” เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า ส่วนนายวิโรฒ เท่าที่สอบถามไปยัง สพม.เขต 1 ก็เข้ามารับหน้าที่ด้วยความเต็มใจ ส่วนการบริหารงานภายในโรงเรียนสามเสนฯ เป็นไปโดยอัตโนมัติ คือให้รอง ผอ.รักษาราชการแทนไปก่อน ขณะที่การสืบหาข้อเท็จจริงก็จะเดินหน้าต่อไป หากพบว่านายวิโรฒไม่มีความผิด ก็ต้องให้กลับไปทำงานที่เดิม

อย่างไรก็ดี ในช่วงสายวันเดียวกัน ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า (คสช.) ให้ยกเลิกการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ 7 ข้อในปีการศึกษา 2561 เพราะ ภตช.ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองว่า มีการเปิดช่องให้มีการทุจริตการรับนักเรียนด้วยเงื่อนไขพิเศษ หรือการรับบริจาคเพื่อแลกที่นั่งเข้าเรียน ทำให้มีการเลือกปฏิบัติ ทุจริต ใช้ตำแหน่งทางราชการบีบ ผอ.โรงเรียนนั้นๆ หรือบริจาคเงินเข้าสถานศึกษาหรือเข้าส่วนตัวเป็นจำนวนมาก เพราะรัฐมีหน้าที่จัดการศึกษาให้มีคุณภาพและเท่าเทียม และให้เปิดเผยรายชื่อการรับนักเรียนตามเงื่อนไขพิเศษปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงทุกระดับชั้น หากพบทุจริตให้มีการดำเนินการทางกฎหมาย

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ