ปัญญาด้านใน

ปัญญาด้านใน

เลาะเลียบคลองผดุง
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]

คําว่า "ปูชนียบุคคล" นั้นสังคมไทยได้ใช้เรียกบุคคลที่ควรแก่การเคารพ ยกย่อง สรรเสริญ ควรบูชาซึ่งบุคคลนั้นได้สร้างคุณงามความดีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและ จริยธรรมมาตลอดชีวิต และแน่นอนว่า ครูคือ บุคคล ที่ถูกจัดให้อยู่ในลำดับความสำคัญเป็นที่สองรองจาก พ่อและแม่

ครู ถูกสังคมคาดหวังมากมายในความเป็นครูมาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะงานของครู คือ การสร้างเยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติ ให้เป็นคนดี มีคุณภาพ

ท่านพุทธทาสภิกขุ ได้ให้ความหมายของคำว่า ครู ไว้มากมาย คือผู้สร้างโลก ผู้เป็นที่พึ่ง ผู้ฝึก ผู้ให้แสงสว่าง ให้ความรู้แก่ศิษย์อย่างทั่วถึง ทั้งวิชาการทางโลก และวิชชาอันเป็นปัญญาด้านใน

สื่อตรงชัดกับหน้าที่ของครู คือ ผู้นำทางจิตวิญญาณ ที่จะนำพาศิษย์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ด้วยการพัฒนาจิตให้เกิดสัมมาทิฏฐิ มีความคิด ความเห็นที่ถูกตรง อันจะนำไปสู่การคิด พูด และทำในสิ่งที่ถูกต้อง และคงต้องยอมรับความจริงกับคำกล่าวของ ท่านพุทธทาส เช่นกันที่ว่า

"...เพราะว่าครูบาอาจารย์ คือ ผู้สร้างโลก โลกนี่จะดีเลวอย่างไรก็แล้วแต่ว่าครูบาอาจารย์สร้างเด็ก ๆ ขึ้นมาอย่างไร ถ้าครูบาอาจารย์ สร้างเด็กๆ ขึ้นมาดี ก็มีผู้ใหญ่ดี โลกนี้ก็เต็มไปด้วยคนดี โลกนี้ก็มีความสุข

ถ้าครูบาอาจารย์เลว สร้างเด็กๆ ขึ้นมาเลว ก็เป็นพลเมือง ที่เลว โลกนี้มันก็เลว เราจึงควรจะถือว่าเป็นครูบาอาจารย์คือ ผู้สร้างโลกจริงๆ?"

มองไปที่ข่าวเรื่องราวของนักเรียน ม.6 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร สั่งให้ผอ.โรงเรียนกราบขอโทษต่อหน้านักเรียนที่กำลังเคารพธงชาติ ที่ไม่พอใจที่พูดหน้าแถวนานเกินไป ตามด้วยโพสต์เฟซบุ๊กประจาน ระบุเป็นภาพแห่งปีที่สุดของจิตวิทยา นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสะเทือนใจสุดๆ ในวงการศึกษามิใช่น้อย

ทั้งภาพและข่าวที่ออกมาหลังจากนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นอกจากสะท้อนถึงการศึกษาไทยในภาพรวมที่ไม่อาจตามทันสังคมไทย สังคมโลกที่หันไปหาวัตถุนิยมมากขึ้น เห็นแก่ตัวมากขึ้น อดทนอดกลั้นเกรงอกเกรงใจก็น้อยลง เป็นผลให้คุณธรรมของสังคมไทยอ่อนแอลงทำให้ปัญญาด้านในมืดบอดแล้ว

อาจจะต้องทบทวนถึงจรรยาบรรณครู เกณฑ์การคัดเลือก ผู้บริหารสถานศึกษากับความเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่มีเพียงความสามารถในเชิงวิชาการ เท่านั้น 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 26 มกราคม 2559