ขีดเส้น 3 เดือนเร่งผุดกระทรวงอุดมฯ



“ประจิน” นัดถกกฤษฎีกาตั้งคณะพิเศษ ชง 2 แนวทางผลักดันกฎหมาย

ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องถึงการจัดตั้งกระทรวงใหม่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า กระทรวงใหม่จะมีชื่อว่า กระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม โดยมีมติตั้งคณะทำงานขึ้นหนึ่งชุดเพื่อดูภาพรวมเกี่ยวกับจัดตั้ง มีประธานร่วม 4 ฝ่ายคือ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วท., ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ซึ่งเป็นผู้ร่าง พ.ร.บ.การวิจัยและนวัตกรรมและตน โดยมีตัวแทนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน และมี พล.อ.อ.ประจิน และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นที่ปรึกษา โดยขีดเส้นตายต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อให้ทันเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อนวันที่ 30 พ.ย. โดยขณะนี้เหลือเวลาอีก 3 เดือนกว่า

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า พล.อ.อ.ประจิน จะเจรจากับคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอให้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเพื่อพิจารณาควบคู่กันไป ซึ่งในหลักการทุกคนไม่ขัดข้องกับการรวมกันของกระทรวงใหม่นี้ แต่ยังมีข้อห่วงใยว่าการนำหน่วยงานที่ให้ทุนวิจัยกับหน่วยงานที่ขอทุนมาอยู่ร่วมกันจะมีการฮั้วกันหรือไม่ ซึ่งคณะทำงานจะต้องตกลงกันให้เรียบร้อย ทั้งนี้ ตนได้ย้ำต่อที่ประชุมว่าในส่วนของกระทรวงอุดมฯดำเนินการเสร็จสิ้น พร้อมทุกกระบวนการแล้ว หากการนำกระทรวงวิทย์และหน่วยงานวิจัยมารวมกันแล้วทำให้เกิดอุปสรรคจะเกิดความเสียหายต่อการอุดมศึกษา ซึ่ง พล.อ.อ.ประจินได้เน้นย้ำว่าต้องทำให้เสร็จ โดยการดำเนินงานมี 2 แนวทางคือ 1.ยกร่าง พ.ร.บ.ใหม่ที่จะครอบคลุมการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม 2.ปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ที่มีอยู่แล้ว โดยยึดร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาที่ออกแบบไว้ดีแล้วเป็นหลัก และนำร่าง พ.ร.บ.การวิจัย และนวัตกรรม ปรับเข้ามา ซึ่งแนวโน้มน่าจะใช้เป็นแนวทางนี้ที่สอง

ต่อข้อถามว่าหากตกลงกันไม่ลงตัวจะส่งผลต่อการจัดตั้งกระทรวงใหม่หรือไม่ ศ.นพ.อุดม กล่าวว่า ที่ประชุมได้วางไว้สองแนวทางให้เลือกคือ ผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ให้มีกระทรวงอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรมก่อน และมีบทเฉพาะกาลให้ไปดำเนินการภายใน 90 วัน หรือ ผลักกระทรวงอุดมศึกษาออกไปก่อน โดยแนบ พ.ร.บ.อุดมศึกษา พ.ศ. ...และให้มีบทเฉพาะกาลให้ออกพระราชกฤษฎีกาในส่วนของวิจัยและนวัตกรรมภายหลัง.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ


โพสเมื่อ : 16 มิ.ย. 61   อ่าน 1311 ครั้ง      คำค้นหา :