![]() |
นางสาวตรีนุช กล่าวภายหลังการลงนามว่า การจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของกฎหมายในการปฏิบัติราชการแผ่นดินแล้ว ยังเป็นการสะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจของแต่ละส่วนราชการ ว่าสามารถดำเนินการบรรลุตามเป้าหมายและทิศทางขององค์กร ได้อย่างมีประสิทธิผล และมีความคุ้มค่า โดยมีประสิทธิภาพในเชิงภารกิจ และการใช้งบประมาณอย่างไร การปฏิบัติตามแผนงานสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ทั้งมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างไร และยังช่วยให้สามารถค้นพบขีดสมรรถนะของบุคลากร และองค์กรที่จะนำมาปรับปรุง และต่อยอดให้การขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาของชาติ “การจัดทำตัวชี้วัดในประเด็นสำคัญต่างๆ เพื่อกำกับติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติราชการของแต่ละส่วนราชการว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ สามารถปฏิบัติงานเพื่อได้เกิดประสิทธิผล และมีประสิทธิภาพจริงอย่างไร ซึ่งตัวชี้วัดต้องไม่เป็นเพียงตัวหนังสือบนกระดาษ แต่ต้องมีการสื่อสารนำไปสู่พื้นที่ทุกส่วนงานทุกระดับ เพื่อให้เข้าใจ มีการดำเนินงานเชื่อมโยงบูรณาการอย่างมีเอกภาพ และมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างทรัพยากรบุคคลทึ่สำคัญของประเทศ”รมว.ศธ. กล่าว นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า เป้าหมายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการสำหรับตัวชี้วัดตามคำรับรองการปฏิบัติงานราชการของแต่ละส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการนั้น ประกอบด้วยตัวชี้วัด 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เป็นตัวชี้วัดการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการประเมินประสิทธิผล และการกำกับติดตามการดำเนินงาน ซึ่งมี 10 ตัวชี้วัดและส่วนที่ 2 จะเป็นตัวชี้วัดที่ตอบสนองต่อนโบบาย และจุดเน้นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใน 12 นโยบายหลักและ 7 วาระเร่งด่วน ซึ่งมี 15 ตัวชี้วัด โดยแต่ละส่วนราชการจะนำไปจัดทำเป็นคำรับรองตามลำดับของหน่วยรองต่อไป 16มี.ค.65-ที่ห้องราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) - นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในการลงนามในคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ระหว่าง รมว.ศธ. และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัด ศธ. ประกอบด้วย นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาฯ กอศ.) และนายอรรถผล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา (เลขาฯ สกศ.) นางสาวตรีนุช กล่าวภายหลังการลงนามว่า การจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของกฎหมายในการปฏิบัติราชการแผ่นดินแล้ว ยังเป็นการสะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจของแต่ละส่วนราชการ ว่าสามารถดำเนินการบรรลุตามเป้าหมายและทิศทางขององค์กร ได้อย่างมีประสิทธิผล และมีความคุ้มค่า โดยมีประสิทธิภาพในเชิงภารกิจ และการใช้งบประมาณอย่างไร การปฏิบัติตามแผนงานสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ทั้งมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างไร และยังช่วยให้สามารถค้นพบขีดสมรรถนะของบุคลากร และองค์กรที่จะนำมาปรับปรุง และต่อยอดให้การขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาของชาติ “การจัดทำตัวชี้วัดในประเด็นสำคัญต่างๆ เพื่อกำกับติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติราชการของแต่ละส่วนราชการว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ สามารถปฏิบัติงานเพื่อได้เกิดประสิทธิผล และมีประสิทธิภาพจริงอย่างไร ซึ่งตัวชี้วัดต้องไม่เป็นเพียงตัวหนังสือบนกระดาษ แต่ต้องมีการสื่อสารนำไปสู่พื้นที่ทุกส่วนงานทุกระดับ เพื่อให้เข้าใจ มีการดำเนินงานเชื่อมโยงบูรณาการอย่างมีเอกภาพ และมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างทรัพยากรบุคคลทึ่สำคัญของประเทศ”รมว.ศธ. กล่าว
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า เป้าหมายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการสำหรับตัวชี้วัดตามคำรับรองการปฏิบัติงานราชการของแต่ละส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการนั้น ประกอบด้วยตัวชี้วัด 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เป็นตัวชี้วัดการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการประเมินประสิทธิผล และการกำกับติดตามการดำเนินงาน ซึ่งมี 10 ตัวชี้วัดและส่วนที่ 2 จะเป็นตัวชี้วัดที่ตอบสนองต่อนโบบาย และจุดเน้นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใน 12 นโยบายหลักและ 7 วาระเร่งด่วน ซึ่งมี 15 ตัวชี้วัด โดยแต่ละส่วนราชการจะนำไปจัดทำเป็นคำรับรองตามลำดับของหน่วยรองต่อไป |
โพสเมื่อ : 17 มี.ค. 65 อ่าน 2346 ครั้ง คำค้นหา : |