![]() |
มติชนรายวัน
ตั้งแต่ ระดับหัวกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไหนแต่ไร ผ่านทั้งรัฐมนตรีว่าการและปลัดมามากมาย ปัญหาหนี้ของครูที่หลายนโยบายล้วนสรรหาเพื่อมาปลดหนี้ให้ สุดท้ายไปไม่ถึงไหน ที่ว่าไปไม่ถึงไหน ไม่ได้หมายว่าไม่มีความพยายามจะแก้ปัญหา แต่มีความพยายามจะแก้แล้วอย่างจริงจัง แนวคิดมากมายระดมสมองออกมา ทั้งรูปของนโยบาย โดยเฉพาะการไปต่อรองกับเจ้าของหนี้ที่เป็นธนาคารรัฐ สุด ท้ายแล้วไม่ได้ทำให้ภาพรวมของการเป็นหนี้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นยังมีอยู่ การแก้ปัญหาก็คาราคาซัง ไม่ว่าครูเก่าที่พอกหนี้ ส่วนครูใหม่ที่มีเหตุผลจำเป็นและไม่จำเป็นก็กระโดดเข้ามาเป็นหนี้ ครู หลายคนให้สัมภาษณ์ในข่าวยืนยันว่าจำเป็นต้องกู้หนี้ด้วยเหตุผลหลากหลาย ตั้งแต่กู้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กู้เพื่อสร้างบ้าน กู้เพื่อค่าเทอมลูกหลาน กู้เพื่อใช้หนี้ กู้เพื่อผ่อนรถและเครื่องใช้ไฟฟ้า ขึ้นชื่อว่ากู้แล้วก็ตกอยู่ในสถานะ "ลูกหนี้" ทันที คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับวินัยของ "ลูกหนี้" จะทำได้ดีแค่ไหน ส่วนที่กู้ไปแล้วเป็นลูกหนี้ที่ดีก็ยังมีอยู่ ผ่อนจ่ายตรงตามนัดหมายตลอด แต่ไม่ค่อยมีใครแสดงตัวให้เห็น เมื่อได้ย้อนกลับไปอ่านข่าวเก่าๆ เกี่ยวกับหนี้ครู บางประเด็นก็เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ต่างกัน "มติ ชน" ฉบับวันที่ 6 ต.ค.2542 สมัย สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีศึกษาธิการ เผยตอนหนึ่งว่า "คณะที่ปรึกษากำลังหาแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครู ซึ่งครูกว่า 90% ของทั้งระบบมีภาระหนี้สินประมาณ 180,000 ล้านบาท จะไม่ยอมให้ครูมีหนี้เพิ่มถึง 2-3 แสนล้านบาทแน่" ข่าวนี้ผ่านมาแล้วถึง 16 ปี หนี้ของครูทั้งประเทศเป็นตัวเลขกลมๆ ในวันนี้ก็ไม่ต่างจากวันนั้น "มติ ชน" ฉบับวันที่ 12 ธ.ค.2550 วรากรณ์ สามโกเศศ รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ว่าทำหนังสือแก้ปัญหาหนี้ครูออกมา 5 หมื่นเล่ม แล้วแจกจ่ายไปยังเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ภายในจะมีกรณีศึกษาที่ไม่รู้มาก่อน ยกตัวอย่างให้เห็นว่าที่เคยเกิดขึ้นมามีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ทำให้ครูที่มีปัญหาคล้ายกันไม่เข้าไปอยู่ในกับดักเดียวกัน และครูที่ยังไม่เป็นหนี้เมื่อเห็นถึงปัญหาแล้วจะไม่อยากเข้ามา ตอน ท้ายข่าวยังระบุ หนังสือเล่มนี้มีคำถามยอดฮิตที่มักจะได้รับปรึกษาอยู่เป็นประจำจากครู เช่น ถามว่าผ่อนจักรยานยนต์ รถยนต์ โทรทัศน์ ขาดส่งไปแล้วจะทำอย่างไร หรือบ้านถูกฟ้องจะต้องทำอย่างไร นั่นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ถึงขั้นทำคัมภีร์ออกมาช่วยเป็นเครื่องเคียง แต่ทุกอย่างก็ยังวนเวียนกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง วันนี้ หลายคนกำลังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุจะช่วยครูปลดหนี้หรือลดหนี้ลงมาอย่างไร แต่ไม่มีใครไปตอกย้ำการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คนของหน่วยงานพยายามไปเจรจากับแบงก์รัฐที่ปล่อยกู้ให้ช่วยลดราวาศอก ทั้งยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย ต่อรองกันอย่างนี้ ไม่ว่ายุคไหนๆ มันก็ยากที่แบงก์เจ้าของหนี้จะยอมผ่อนปรนให้ อย่าลืมว่า ครูอีกมากที่จ่ายหนี้แบงก์ตรงเวลา ไม่เคยผัดผ่อนหนี้ บริหารหนี้ตามวินัยการเงินของตนเอง หากจะไปลดดอกเบี้ยให้ลูกหนี้อื่นๆ จะกลายเป็นความไม่เป็นธรรมของลูกหนี้กลุ่มนี้เช่นกัน ทำไมไม่มีใคร ไปถามครูที่จ่ายหนี้ตรงเวลาว่าทำอย่างไร ทำไมไม่เอามาตั้งโจทย์หาคำตอบกันบ้าง บางคนหนี้ใกล้หมดก็ยังกู้เงินก้อนใหม่ แล้วก็บริหารหนี้อย่างตรงไปตรงมา น่าจะเป็นแบบอย่างที่ควรหยิบออกมาพูดเสียงดังๆ ให้เท่าๆ กัน หรือจะลองทำคัมภีร์อีกสักเล่ม ทำเป็นแบบสำรวจไปถามครูที่ทำหน้าที่ "ลูกหนี้" ที่ดี ทำได้อย่างไร ในเมื่อเป็นครูเหมือนๆ กัน
|
โพสเมื่อ : 18 พ.ย. 58 อ่าน 1562 ครั้ง คำค้นหา : |