ทำไมต้องอาชีวะ

ทำไมต้องอาชีวะ

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]

จับตากันให้ดีถึงการปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รอบใหม่ ว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่ดำเนินการกันมาอย่างค่อนข้างเป็นรูปธรรมในสมัยของ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนา ศัย เป็นรมว.ศึกษาธิการ ซึ่งได้มอบหมายให้บรรดาองค์กรหลักทั้ง 5 ไปวิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสีย หากมีการปรับโครงสร้างศธ.เสียใหม่ จะส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงหรือไม่อย่างไร

เน้นไปที่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ถ้าแยกออกไปจาก ศธ.เป็นอีกหนึ่งหน่วยงาน การทำงานน่าจะมีความคล่องตัวมากขึ้น

แน่นอนที่สุดที่ทั้ง สกศ.ในอนาคตจะไปเกี่ยวโยงกับคณะกรรมการนโยบายการศึกษาและพัฒนามนุษย์แห่ง ชาติ อาจจะไม่ได้อยู่ในสังกัดสำนักนายกฯ หรืออาจแยกออกไปเป็นหน่วยงานอิสระ ส่วน สกอ. มีแนวโน้มสูงยิ่งที่จะหลุดออกไปจากศธ.แบบแทบไม่ต้องออกแรงไปเป็นทบวงหรือ กระทรวงอุดมและวิจัย โน่น

ขณะที่ข้อเสนอของ สพฐ.ขอเสนอตั้งทบวงการศึกษาขั้น พื้นฐานขึ้นมา มีระดับ 11 กำกับ มีโครงสร้างบริหารจัดการภายในใหม่ แบ่งออกเป็น 4 กรม คือ กรมประถมศึกษา กรมมัธยมศึกษา กรมวิชาการ และกรมการศึกษาคนพิการ ด้อยโอกาสและเด็กอัจฉริยะ ภายใต้การกำกับของ ศธ. มีผู้บริหารระดับอธิบดี 4 คนดูแล อีกทั้งเสนอให้ขยายสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ครบทั้ง 77 จังหวัด เรียกว่าจะเอาทั้งคืบและทั้งศอกในคราวเดียวกัน

ผิดกับ สอศ. เสนอโครงสร้างที่มีการยกร่างไว้เรียบร้อยแล้ว ขอแยกออกเป็น 4 กรม คือ กรมอาชีวศึกษารัฐ กรมอาชีวศึกษาเอกชน กรมมาตรฐานการจัดการศึกษา และกรมทวิภาคีและความร่วมมือ ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารงานมีความสมบูรณ์ และสามารถทำงานได้ตรงตามเป้าหมายมากที่สุด

แต่ปรากฏว่า รมว.ศธ. ได้เสนอรูปแบบการปรับโครงสร้างบริหารราชการ ศธ. ต่อที่ประชุมซูเปอร์บอร์ดการศึกษา ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้มีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นระดับ 11 เพียงคนเดียว

เท่ากับว่า สอศ.จะมีฐานะเป็นกรมอาชีวศึกษาเพียงกรมเดียว เป็นไปได้ไง 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558