![]() |
มุ่งเน้นเสริมสร้างสมรรถนะเด็ก มอบ สพฐ.-สทศ.ถกวางแนวทางด่วน เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (วีเน็ต) ว่า ตนได้หารือร่วมกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อหาแนวทางยกระดับให้การศึกษาไทยเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาที่มุ่งเน้นเรื่องคิดวิเคราะห์ และทักษะต่างๆตามโลกในปัจจุบัน ขณะนี้การศึกษาของไทยยังไปไม่ถึงมาตรฐานดังกล่าว และยังใช้ระยะเวลากับการขับเคลื่อนให้เป็นไปตามมาตรฐานนานเกินไป ไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะขับเคลื่อนการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ต้องการได้อย่างไร จึงต้องกลับมาทบทวนถึงความเหมาะสม แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะจากที่ตนได้ศึกษาพบว่ามีรายละเอียดร้อยละ 80 ที่ควรคงไว้ ที่เหลือร้อยละ 20 ก็คงต้องปรับให้ตรงกับทักษะโลกในปัจจุบัน ซึ่งตนได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาเรื่องนี้ รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตนได้มอบหมายให้เริ่มดำเนินการในส่วนของโอเน็ต ระดับ ป.6 ก่อน เพราะหากเรามีการกำหนดแนวทางของข้อสอบชั้น ป.6 แล้ว การจัดการเรียนการสอนของเด็กตั้งแต่ระดับชั้น ป.1 จนถึง ป.6 ก็จะต้องปรับโดยเน้นเสริมสร้างสมรรถนะเด็ก เพื่อให้มีความเข้าใจในข้อสอบที่จะต้องทำในชั้น ป.6 เพราะในปัจจุบันเรื่องนี้สะท้อนถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้นเด็กทุกคนต้องมีความรู้พื้นฐานในมาตรฐานที่ใกล้เคียงกันก่อน โดยในส่วนของครูนั้น เราจะต้องทำให้ครูทั้งระบบในระดับ ป.1-6 มีความเข้าใจแนวทางของข้อสอบเพราะครูถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะต้องทำให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้น หรือเข้าใจมากขึ้น และหากครูสามารถทำได้สิ่งนี้ก็จะเป็นตัวสะท้อนถึงวิทยฐานะที่จับต้องได้โดยที่ไม่ต้องทำรายงานขึ้นมา และเรื่องนี้จะเป็นการร้อยเรียงปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันทำให้เกิดความง่ายในการประเมิน มีการวางแผนที่ชัดเจน และมีความสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง “ผมได้สัมผัสข้อสอบโอเน็ต พบว่ามีบางส่วนที่คนทั่วไปดูแล้วอาจจะเกิดข้อสงสัยว่าทำไมถึงมีข้อสอบแบบนี้ ซึ่งผมขอยืนยันว่า ผมไม่มีความต้องการที่จะทำให้ข้อสอบง่ายขึ้น แต่แค่อยากให้ข้อสอบสะท้อนถึงความต้องการ และสมรรถนะของเด็กนักเรียนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ อาจต้องทบทวนข้อสอบประมาณร้อยละ 40 ว่าเหมาะสมกับแนวทางที่ ศธ.วางไว้หรือไม่ โดยในอีก 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ทาง สทศ. และ สพฐ.จะหารือร่วมกัน เพื่อวางกรอบแนวทาง โดยมีการเชิญนักวิชาการทุกกลุ่มสาระวิชา มาร่วมกันวางแผนว่าควรเสริมสร้างความรู้ให้เด็กมีทักษะอย่างไร และควรต้องมีการทดสอบในเรื่องใดบ้าง ก่อนนำมาใช้ในการปรับวิธีการสอน และหากสามารถเห็นผลการขับเคลื่อนอย่างชัดเจน ก็อาจจะมีการขยับไปปรับใช้ในระดับมัธยมศึกษาต่อไปด้วย” นายณัฏฐพลกล่าว. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 19 ก.พ. 63 อ่าน 2603 ครั้ง คำค้นหา : |