นายกฯ ห่วงการใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะกำชับ ศธ. ต้องพัฒนาครูให้พร้อม
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)
กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมพล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึง เรื่อง
การปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ให้เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
ซึ่งได้นำร่องการใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จำนวน 265
โรงเรียนใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ กาญจนบุรี ศรีสะเกษ ระยอง
สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงใย ว่า
เมื่อมีการปรับปรุงหลักสูตรใหม่แล้ว
ก็ต้องการให้กระบวนการนำไปใช้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งในส่วนของครู
จะต้องมีการพัฒนาพร้อมรับกับการสอนตามหลักสูตรใหม่ด้วย ซึ่งนายกฯ ขอให้
ศธ.ดำเนินการสร้างความเข้าใจให้แก่ครูอย่างดี
เนื่องจากครูเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการเรียนการสอน
เพราะจะต้องนำหลักสูตรมาถ่ายทอดสู่ผู้เรียน
ให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้ตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ
ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ไปจัดทำแผนพัฒนาครูตามหลักสูตรใหม่แล้ว
เนื่องจากจะมีการขยายผลไปยังโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล และโรงเรียนอื่นๆ
ต่อไป ดังนั้นจะต้องเตรียมแผนพัฒนาครูรองรับไว้
"ส่วนการฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปีนั้น
ขณะนี้ข้อมูลได้ทยอยแจ้งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
และได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนไปแล้วกว่า 700,000 คน
ซึ่งจากที่ตรวจสอบกำหนดการดำเนินการของแต่ละจังหวัด
คาดว่าจะเป็นไปตามแผนเป้าหมายที่เราวางไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม
ศธ.ได้เตรียมแผนรองรับไว้สำหรับนักเรียนในรอบตกหล่นด้วย
โดยยืนยันว่าวัคซีนมีอย่างเพียงพอ
ดังนั้นหากนักเรียนคนไหนพร้อมจะฉีดวัคซีนแล้วสามารถแจ้งความประสงค์ที่โรงเรียนได้
สำหรับการตรวจ ATK ในการระหว่างการเปิดเรียนนั้น
ขณะนี้เรากำลังประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอาจจะไม่ได้มีการตรวจ
ATK ทุกโรงเรียน แต่อาจอยู่ในรูปแบบการสุ่มตรวจมากกว่า
หรืออาจตรวจเฉพาะในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่ยังมีการระบาดหนักอยู่เท่านั้น"รมว.ศธ.กล่าว
ที่มา : นสพ.ไทยโพสต์
|
โพสเมื่อ :
14 ต.ค. 64
อ่าน 2148 ครั้ง คำค้นหา :
|
|