คุรุสภาเตรียมพร้อมสอบรับใบวิชาชีพครู

ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าที่ประชุมได้มีมติเรื่องการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยมอบให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ไปจัดทำแนวทางการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและมาตรฐานต่างๆ ให้ชัดเจนก่อนประกาศใช้ ดังนั้น หลังจากนี้คุรุสภาจะนำข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการคุรุสภาไปปรับปรุงแนวทางการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งคาดว่าจะยกร่างแนวแนงทางฯ แล้วเสร็จในปีนี้ และนำร่องได้ในปี 2562 เพื่อเป็นการตรวจสอบระบบให้มีความแม่นยำ รวมถึงหาข้อบกพร่อง ก่อนที่จะประกาศใช้จริงในปี 2563

ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้คุรุสภาได้เตรียมการเรื่องการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ไว้บ้างแล้วโดยได้ยกร่างแนวทางการดำเนินการทดสอบ จากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนฝ่ายผลิต ทั้งได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย จากการประชุม 5 ครั้ง ใน4ภูมิภาคและที่กรุงเทพฯ รวมถึงได้รับฟังความคิดเห็นทั้งในด้านผลกระทบและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งในส่วนขององค์ประกอบการทดสอบจะต้องเป็นการทดสอบสมรรถนะทางวิชาชีพครู ตามมาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนด ทั้งการทดสอบสมรรถนะทางวิชาชีพครู และการเทียบผลการประเมินความรู้สาขาวิชาเอก ขณะที่เกณฑ์การพิจารณานั้น ผู้สอบจะต้องมีผลคะแนนการทดสอบสมรรถนะทางวิชาชีพครู ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และการเทียบผลการประเมินความรู้สาขาวิชาเอก ต้องมีคะแนนเฉลี่ยสะสมวิชาเอกไม่น้อยกว่า 2.00

"การสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ถือเป็นการประเมินคุณภาพบัณฑิตครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ เป็นการประกันที่ผลผลิตและเป็นการพัฒนาการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยระยะแรก พิจารณาจากการรับรองปริญญา ที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ ซึ่งบัณฑิตที่จบหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง สามารถใช้คุณวุฒิในการขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้เลย ส่วนระยะที่ 2เป็นการประเมินคุณภาพบัณฑิต ซึ่งจะทำให้เกิดอิสระแก่สถาบันการผลิต ในการสร้างสรรค์กระบวนการผลิตครูให้มีความยืดหยุ่น และมีจุดเน้นตามศักยภาพและบริบทมากขึ้นจะทำให้ได้ครูคุณภาพ และเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและกระแสโลก"ดร.สมศักดิ์ กล่าว

ดร.บูรพาทิศ พลอยสุวรรณ์ รองเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า การประชุมบอร์ดคุรุสภาครั้งที่ผ่านมา ที่ประชุมได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องข้อสอบ ที่ใช้ในการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ว่าต้องเป็นข้อสอบที่สามารถวัดความรู้สามารถ เรื่องวิชาชีพครูของผู้เข้าสอบได้จริง โดยจะต้องมีการผสมผสานวิธีการทดสอบทั้งในรูปแบบของการสอบแบบปรนัย-อัตนัย เข้าด้วยกัน และเปิดโอกาสให้สถาบันฝ่ายผลิต ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกข้อสอบด้วย ส่วนหน่วยงานที่จะเป็นผู้ดำเนินการสอบ ได้มอบให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ.รับผิดชอบและใช้ข้อสอบที่คุรุสภาดำเนินการออกข้อสอบไว้เท่านั้น

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจากสยามรัฐออนไลน์ 4 มิถุนายน 2561