![]() |
จากการปาฐกถาหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ครั้งที่ 3 เรื่อง “ความฉลาดรู้ และจิตวิญญาณความเป็นครู” โดย ศ.สุมน อมรวิวัฒน์ ราชบัณฑิต เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่หอประชุมคุรุสภา ตอนหนึ่งว่า โลกมีการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน วงการครูก็มีการเปลี่ยนแปลงโดยตลอด แต่เปลี่ยนอย่างช้าๆ ในระบบที่ซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับชีวิต ไม่ใช่นักเรียนเท่านั้น เพราะฉะนั้นโรงเรียนจึงไม่ใช่โรงสอน แต่โรงเรียนคือแหล่งพัฒนาการเรียนรู้ของชุมชน เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน ที่คนทุกวัย ทุกช่วงอายุมาใช้ประโยชน์ ดังนั้นตนจึงเสียใจมาก ที่ยุบโรงเรียนโดยบอกว่า ไม่คุ้มทุน ซึ่งการสร้างชีวิตคนจะตีค่าเป็นเรื่องของการคุ้มทุนไม่ได้ ส่วนของครูนั้นอยากให้ประเมินตนเองว่าเป็นครูที่มีชีวิตหรือ เป็นหุ่นที่ขยับไปตามการชักเชิด หากเป็นครูที่มีชีวิตก็ต้องแสดงออกจากภายในที่เรียกว่าจิตวิญญาณความเป็นครู และการเป็นครูคือวิชาชีพ มีหน้าที่พัฒนาตนเอง และพัฒนาลูกศิษย์ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น สังเกต ชี้แนะและช่วยเหลือ และต้องพยายามก้าวออกจากกรอบหรือความคุ้นชินเดิมๆ ไปสู่การสร้างนวัตกรรม ส่วนการเสวนาพิเศษเรื่อง “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า คนเป็นครูต้องภาคภูมิใจในวิชาชีพ วันครู ตนยังมีความเชื่อมั่นต่อการศึกษาไทย เรายึดแบบอย่างประเทศที่มีการศึกษาที่ดี เช่น ฟินแลนด์ แต่ต้องปรับให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ประเทศจีนที่วางเป้าว่าอีก 20 ปีข้างหน้าคนจีนจะครองโลกด้วยวิทยาศาสตร์ ตราบใดที่เราไม่มีเป้าหมาย เราก็อย่าได้หวังว่าเราจะได้เป็นอะไรได้ ส่วนครูนั้นขอให้มีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพ ทำตัวเป็นแก้วน้ำที่ว่างเปล่าพร้อมรับการประเมิน เพราะจะทำให้เกิดการพัฒนา. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 19 ม.ค. 63 อ่าน 1279 ครั้ง คำค้นหา : |