![]() |
นายพรชัย มงคลวนิชอธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ. เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้ มาตรา 44 ให้สถาบันอุดมศึกษาจากต่างประเทศที่มีศักยภาพสูงมาเปิดสอนในเขตเศรษฐกิจพิเศษเน้นการผลิตเฉพาะสาขาขาดแคลนที่มหาวิทยาลัยไทยเปิดสอนไม่ได้ โดยอ้างว่าสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ)และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)เห็นด้วย เพื่อรองรับการพัฒนาบุคลากรยุคไทยแลนด์ 4.0 ว่า เห็นด้วยกับเรื่องนี้ใน 3 ประเด็น คือ 1.มหาวิทยาลัยต่างประเทศที่จะเข้ามาจัดตั้งในไทย ต้องมีการจัดอันดับโลกที่ดีกว่ามหาวิทยาลัยไทย เช่น ติด 1 ใน 50 หรือ 1 ใน 100 อันดับแรกของโลก 2.ควรจะเข้ามาโดยการเชิญของรัฐบาลไทยเท่านั้น โดยมีคณะกรรมการขึ้น 1 ชุดในการพิจารณาคัดเลือก ซึ่งในคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะต้องมีประธาน ทปอ.และนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) ร่วมเป็นกรรมการ โดยเฉพาะ สสอท.เนื่องจากมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง เพราะเมื่อเข้ามาจัดตั้งในไทย แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐในต่างประเทศ แต่จะกลายเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนเมื่อตั้งอยู่ในไทย และ 3.เมื่อเข้ามาจัดตั้งแล้วจะต้องมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย หรือสถาบันวิจัยของไทย เพื่อให้มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยก้าวหน้าขึ้นไปอีก “การจัดการศึกษาจะไปปิดกั้นไม่ได้แล้ว เพราะจะเสียโอกาส ผมเห็นด้วยที่จะให้มหาวิทยาลัยระดับโลกเข้ามาตั้งในไทย แต่ต้องเป็นไปแบบมีเงื่อนไข มีกระบวนการคัดเลือก ไม่ใช่ใครก็ได้เข้ามาตั้ง และต้องร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไทย ผมคิดว่าเรื่องนี้มองได้ 2 ด้าน คือ 1.เป็นคู่แข่ง และ 2.ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไทยในการเปิดสาขาใหม่ๆ ที่เป็นความขาดแคลน เช่น สาขาวิชาที่เกี่ยวกับระบบราง หรือหุ่นยนต์ เป็นต้น” นายพรชัย กล่าว
|
โพสเมื่อ : 22 พ.ค. 60 อ่าน 1284 ครั้ง คำค้นหา : |