สมาคมฯ ร.ร.อนุบาล รับแม่งานฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพภาษาอังกฤษ จับมือ พว. - ม.เคมบริดจ์ ชู 3 เทคนิค การสอนภาษาอังกฤษประสิทธิภาพสูง
นายสำเริง กุจิระพันธ์ รองเลขาธิการคุรุสภา
และนายกสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดแห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาคมฯร่วมกับสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)
และสำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
จัดอบรมเรื่องเทคนิคการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21
ให้แก่ครูโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด
เพื่อให้สามารถนำไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพ
ยิ่งขึ้น
ในปัจจุบันภาพรวมโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดส่วนใหญ่มีคุณภาพที่ดีอยู่แล้ว
หาก พว.
จะเข้ามาช่วยพัฒนากระบวนการและฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ครูและบุคลากรทาง
การศึกษา
โดยเริ่มจากโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดก่อนที่จะขยายผลไปยังโรงเรียนอนุบาล
ระดับอื่น ๆ ต่อไป
นายศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหาร พว. กล่าวว่า
การร่วมเมือครั้งนี้เพื่อร่วมกันพัฒนายกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ได้
มาตรฐานตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 หลักสูตรสถานศึกษา
และพัฒนาศักยภาพผู้เรียนที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
โดยจะจัดทำยุทธศาสตร์ในการบริหารพัฒนาเด็กไทยให้มีศักยภาพ
โดยมีสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดเป็นแม่ข่ายและเป็นผู้
นำในการยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ในสถานศึกษา
ให้ได้มาตรฐานควบคู่กับประเทศชั้นนำในประชาคมอาเซียนและสากล
“การอบรมครูผู้สอนภาษาอังกฤษนั้น มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
จะพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้สอดคล้องกับหลักสูตรของประเทศ
ไทยอย่างมีระบบ และแบบแผนที่ถูกต้องจากเจ้าของภาษา
ช่วยครูผู้สอนให้มีทักษะด้านภาษาต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ”
นายศักดิ์สิน กล่าว
นายเกรก เรย์มอนด์ ครูสอนภาษาอังกฤษ กล่าวว่า
เด็กไทยใช้เวลาเรียนการศึกษาภาคบังคับมากกว่า 10 ปี
แต่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
เนื่องจากการจัดการเรียนการสอนของไทยจะเน้นการสอนให้เด็กท่องจำเป็นหลัก
อีกอย่างเด็กมองว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องน่ากลัว ทำให้เกร็ง และเครียด
ไม่กล้าที่จะพูดออกมา
ดังนั้น เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพเกิดทักษะการอ่านออกเขียนได้มี 3 รูปแบบ ได้แก่
1. Phonics (โฟนิกส์) คือ การออกเสียง และการฟัง อย่างถูกต้อง
2. Total Physical Response (TPR) การสอนโดยใช้ภาษาร่างกาย ท่าทางประกอบ และ
3. Observation การสอนโดยใช้การสังเกตจากประสาทสัมผัส เช่น การมอง การสัมผัส การฟัง การดมกลิ่น การจับ การชิม
ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบเป็นพื้นฐานที่ทุกคนสามารถทำได้
โดยครูผู้สอนต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารตลอดเวลา
ห้ามแปลเป็นภาษาไทยให้เด็กฟัง
เพื่อต้องการให้ผู้เรียนเกิดความคุ้นเคยและมองว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาในชีวิต
ประจำวัน
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 26 ตุลาคม 2558