"ม็อบนักเรียน" ร้องเพลง "นักเรียนลุยไฟ" ผมจะย้อมสีอะไร ทำทรงไหน เสื้อผ้ารองเท้าแบบไหน จะใส่ไปเรียน"มันก็เรื่องของกู "

นอกจากนี้ยังมีนักเรียนโรงเรียนของตนโดนสมาคมผู้ปกครองคุกคาม โทรศัพท์แจ้งทางบ้านจนทำให้นักเรียนคนดังกล่าวจิตตก ร้องไห้และไม่มีกำลังใจในการเรียน ตนต้องการฝากคำถามถึงผู้ปกครองทุกคนว่า  พวกคุณโอเคหรือ กับการที่เด็กคนหนึ่ง  จะต้องใส่ชุดที่บังคับเพศสภาพไปเรียน   และการเป็นผู้ปกครองที่ดีนั้น  คือ ผู้ปกครองที่บังคับลูก หรือผู้ปกครองที่สอนลูกด้วยความเป็นตัวลูกจริงๆ อีกเรื่องหนึ่ง คือ การที่โรงเรียนพยายามจะหาทางออกหรือจุดตรงกลางร่วมกัน แต่กฎหมายและระเบียบยังกำหนดให้มีการลงโทษ สุดท้ายตนอยากจะพูดว่า “เผด็จการจนพังทะลาย เสรีการแต่งกายจงเจริญ”

ด้านตัวแทนจากโรงเรียนชื่อดังย่านตลาดน้อย กล่าวว่า ตนและเพื่อนถูกห้ามไม่ให้เข้าโรงเรียนในทันที พอเข้าโรงเรียนได้ก็ถูกจับมาสายและเข้าห้องฝ่ายปกครอง เมื่อมีนักเรียนต้องการคุยกับผู้บริหารโรงเรียนก็ถูกปล่อยให้รอเป็นระยะเวลานาน และเมื่อได้มีการพูดคุยครูและผู้บริหาร ก็จะยกเรื่องของความเหลื่อมล้ำมาเป็นเหตุผลที่จะต้องใส่ชุดนักเรียน ขณะนี้เราเห็นว่าเด็กกลุ่มหนึ่งไม่มีแม้แต่เงินจะใส่ชุดนักเรียน นอกจากนี้ตนยังถูกตัดคะแนนจากทางโรงเรียนด้วย ตนต้องการให้มีการมองถึงเพศวิถีที่อยู่กับเด็กมาตั้งแต่เกิดด้วย

ทั้งนี้ทางกลุ่มนักเรียนเลว ยังจัดกิจกรรมเต้นเพลง "สีดาลุยไฟ" ที่ปรับเนื้อหาเป็นเพลง"นักเรียนลุยไฟ "บริเวณหน้าป้าย ศธ. โดยเพลงดังกล่าวมีเนื้อหา เช่น เราเกิดมาก็ถูกตัดสิน ถูกกัดกินจากการศึกษา คือระบอบที่ย่ำยีเรา คือ ลความรุนแรงที่มึงไม่มอง เราเกิดมาก็ถูกกดหัว ต้องเจียมตัวให้พวกผู้ใหญ่ คือความเชื่อย่ำยีเรา คือความอัปปรี ที่มึงต้องมอง มึงนั้นแหละฆาตกร  ทำเป็นสอนให้เราหมอบกราบ  สั่งให้เราอยู่โอวาท มึงนั้นแหละที่ดับฝันเรา 

ผมกูจะยาวใจะย้อมสีอะไร จะทำทรงไหน มันก็ผมของกู เสื้อผ้ารองเท้าจะใส่แบบไหน จะใส่ไปเรียนมันก็เรื่องของกู สายอาชีพ สายศิลป์ สายวิทย์หรือสอบไม่ติดมันก็เรื่องของกู ความรุนแรงในรั้วโรงเรียนต้องแก้ที่มึงไม่ใช่ที่กู มึงนั้นแหละที่กดขี่เรา มึงนั้นแหละที่กีดขวางเรา มึงนั้นแหละที่ถ่วงความเจริญ เป็นต้น