นาซาวางแผนลดการโคจรยานจูโนให้สั้นลงหลังพบความล่าช้า

หลังจากยานอวกาศจูโนถูกส่งออกไปนอกโลกในภารกิจสำรวจดาวพฤหัสบดี ดาวเคราะห์ที่ 5 จากดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะและมีดวงจันทร์บริวารอย่างน้อย 67 ดวง ขณะนี้ยานลำดังกล่าวได้โคจรอยู่แถบรังสีของดาวพฤหัสบดี แต่เกิดปัญหาล่าช้าจากเดิมที่นักวิทยาศาสตร์ได้วางแผนไว้ เนื่องจากความหนืดของท่อเปิดปิดในตัวยาน ทำให้ยานอวกาศจูโนต้องใช้ระยะเวลาโคจรยาวออกไปบนแถบรังสีที่รายรอบด้วยก๊าซขนาดมหึมา

ยานอวกาศจูโนต้องใช้เวลา 53 วันในการโคจรรอบดาวพฤหัสบดีนานเกือบ 4 เท่ามากกว่าที่ตั้งใจโคจรเป็นเวลา 14 วัน หลังจากที่เกิดความล่าช้าทำให้องค์การนาซาตัดสินใจที่จะระเบิดเครื่องยนต์ซึ่งน่าจะทำให้รอบการโคจรสั้นลง โดยยืนยันว่าคุณภาพด้านวิทยาศาสตร์จะไม่ได้รับผลกระทบและเน้นว่าภาพที่สวยงามของดาวพฤหัสบดีจะยังถูกส่งกลับมายังโลก แต่จะต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลและให้ระยะเวลาโคจรยาวขึ้น

ทั้งนี้ ยานอวกาศจูโนจะร่อนลงไปใกล้ชั้นบนสุดของเมฆภายใน 4,200 กิโลเมตร โดยจะเคลื่อนผ่านอย่างรวดเร็วในปลายเดือนมี.ค.นี้ จากนั้นจะจมลงสู่ชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีและเผาไหม้ตกลงไป เป็นการปิดฉากการเดินทางนานกว่า 5 ปี.