สรรหาเลขาธิการ สกสค.ส่อบานปลาย

จากกรณี นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการคัดเลือกเลขาธิการ สกสค. เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 ที่ผ่านมานั้น เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. พร้อมด้วยนายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัด ศธ. และทีมกฎหมาย สำนักงานปลัด ศธ. ร่วมกันแถลงว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของนายอรรถพล ซึ่งก็ต้องไปสู้กันในศาล ส่วนเรื่องขอหารือคณะกรรมการกฤษฎีกากรณีการสรรหาเลขาธิการ สกสค.นั้น สำนักงานปลัด ศธ.ยังไม่ได้รับผลการพิจารณาอย่างเป็นทางการว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่รับวินิจฉัย ไม่ทราบว่านายอรรถพล ได้ข้อมูลมาจากไหน อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องใดที่ศาลรับฟ้องแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะไม่รับหารือ

ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยมาให้ข่าวเรื่องการคัดเลือกเลขาธิการ สกสค. แต่วันนี้ขอพูดบ้างว่า ก่อนประชุมคณะกรรมการ สกสค.ได้มีผู้สมัครรายหนึ่งนำเอกสารลับทางราชการหอบมาที่ห้องตน ซึ่งเป็นเอกสารผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเลขาธิการ สกสค.มาแสดงให้ตนดูเพื่อให้เห็นว่าตัวเองเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนเพียงคนเดียว และขอให้ตนเลือกเขา ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าผู้สมัครรายดังกล่าวได้ข้อมูลมาได้อย่างไร เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ตนจึงส่งหลักฐานทั้งหมดให้สำนักนิติการตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีหนังสือรายสัปดาห์ฉบับหนึ่งเขียนถึงผมว่าตอนที่ผมสอบเป็นรองเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เมื่อปี 2556 มีการกระทำเชิงทุจริตและมีผู้ใหญ่ที่เป็นนักการเมืองผู้หนึ่งให้การช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมเสียหายมาก ถ้าใครรู้ประวัติตนจะรู้เลยว่าตอนที่ทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 10 กว่าปี ผมทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายช่วยเหลือครูที่ถูกทำร้ายจากผู้ก่อการร้าย ช่วยพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามอ่านภาษาไทยได้อย่างดี คณะกรรมการจึงเลือกให้มาเป็นรองเลขาธิการ สช. ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่านายอรรถพลไปสอบในตำแหน่งดังกล่าวด้วย และยืนยันว่าผมไม่มีความขัดแย้งกับนายอรรถพล ดังนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องเอาคืนทำไม แต่มาอ้างว่าผมมีความขัดแย้งตั้งแต่เดิม ซึ่งทำให้ผมเสียหาย ผลงานที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจสอบคดีทุจริตการก่อสร้างอควาเรียม คดีทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ผมก็เป็นผู้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่เริ่มต้น รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้นายอรรถพล มาทำต่อจากผม เพราะผมต้องทำงานเยอะ อย่างไรก็ตาม การที่นายอรรถพลจะฟ้องร้องเรื่องต่างๆ ผมก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจ ซึ่งก็มาพูดกันได้” นายการุณ กล่าว.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ